กรมพัฒน์ฯปั้นสำนักงานบัญชีดิจิทัล นำระบบAI-หุ่นยนต์ช่วยบริหารจัดการ

1109

นางโสรดา เลิศอาภาจิตร์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยถึง แนวทางการดำเนินงานและภารกิจของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในปี 2563 เกี่ยวกับการพัฒนาและส่งเสริมธุรกิจสำนักงานบัญชี ซึ่งถือเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจในด้านการจัดทำและนำเสนอตัวเลขทางธุรกิจในรูปแบบของรายงานทางการเงินแก่ภาคธุรกิจ

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในฐานะหน่วยงานส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีให้มีความเป็นมืออาชีพและมีธรรมาภิบาล ได้ตระหนักถึงความสำคัญต่อการพัฒนาและเพิ่มพูนองค์ความรู้ด้านมาตรฐานการบัญชีให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของวิชาชีพและเทคโนโลยีที่เกิดขึ้น กรมฯ จึงมีนโยบายและแผนงานที่จะส่งเสริมให้ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีได้เตรียมความพร้อมทั้งในเรื่ององค์ความรู้และเครื่องมือทางด้านเทคโนโลยีให้พร้อมรับกับระบบเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อเตรียมความพร้อมให้สำนักงานบัญชีคุณภาพสามารถเข้าถึงนวัตกรรมทางด้านการบัญชีและการบริหารจัดการ ตลอดจนปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานจากแบบดั้งเดิมไปสู่การเป็นสำนักงานบัญชีดิจิทัล (Digital Accounting Firm)

โดยใน ปี 2563 กรมฯ ได้กำหนดแนวทางการดำเนินงาน ดังนี้

  1. เสริมสร้างองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำบัญชี และการเปลี่ยนแปลงเป็นสำนักงานบัญชีคุณภาพสู่สำนักบัญชีดิจิทัล (Transform to Digital Accounting Firm) เช่น การนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) หรือหุ่นยนต์ (Robot) มาใช้ในการทำบัญชี การประมวลผล การวิเคราะห์ข้อมูล  เป็นต้น
  2. กำหนดหลักเกณฑ์ โครงสร้าง และรูปแบบของสำนักงานบัญชีดิจิทัล โดยคณะทำงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาหาเครื่องมือและโปรแกรมที่มีความเหมาะสมกับธุรกิจสำนักงานบัญชี เพื่อให้สำนักงานบัญชีคุณภาพนำไปใช้ในการดำเนินการและวัดผลแบบ Self-Assessment
  3. จัดประกวดสำนักงานบัญชีคุณภาพที่สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นสำนักงานบัญชีดิจิทัลที่สามารถให้บริการลูกค้าด้วยเทคโนโลยีได้ครบวงจร พร้อมจัดพิธีมอบรางวัลสำนักงานบัญชีดิจิทัลดีเด่น เพื่อกระตุ้นให้สำนักงานบัญชีเกิดการตื่นตัว
  4. กรมฯ จะถอดบทเรียนในการทำต้นแบบสำนักงานบัญชีดิจิทัล พร้อมทั้งเผยแพร่ไปยังหน่วยงาน สำนักงานบัญชีและผู้ทำบัญชีอื่นๆ เพื่อพลิกโฉมสำนักงานบัญชีไทยสู่ Digital Accounting Firm สร้างความเชื่อมั่นข้อมูลทางบัญชีและการเงินด้วยนวัตกรรม

ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 25 ธันวาคม 2562) มีสำนักงานบัญชีคุณภาพ จำนวนทั้งสิ้น 162 ราย แบ่งเป็นภาคกลางจำนวน 50 ราย ภาคเหนือจำนวน 17 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 10 ราย ภาคใต้จำนวน 21 ราย และกรุงเทพมหานคร จำนวน 64 ราย