สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จัดการแข่งขันทักษะภาษาอังกฤษ EchoVE Contest รอบชิงชนะเลิศ ระดับประเทศ ตามโครงการฝึกอบรมพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อก้าวสู่อาชีพ (EchoVE) เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาทักษะความสามารถทางภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารและการประกอบอาชีพให้แก่ครู อาจารย์ นักเรียน นักศึกษาในสถานศึกษาภาครัฐและเอกชน โดยใช้แอปพลิเคชัน EchoVE เป็นสื่อการเรียนการสอนซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับสมาร์ทโฟนหรือแท็ปเล็ตได้ โดยมีนายแพทย์ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขัน ณ ไทยแลนด์ อีสปอร์ต อารีน่า ศูนย์การค้าเดอะสตรีท รัชดา
นายแพทย์ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า เอคโค่วี คอนเทสต์ (EchoVE Contest) เป็นกิจกรรมการแข่งขันภาษาอังกฤษระดับประเทศที่ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยมีแพลตฟอร์มของการแข่งขันและรูปแบบการแข่งขันที่อ้างอิงไปกับแอปพลิเคชันเอคโค่วี แอปพลิเคชั่น การสอนภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียน นักศึกษาสายอาชีพ และประชาชนทั่วไปที่มีความสนใจ โดยสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ต้องการยกระดับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของสถานศึกษาทั่วประเทศให้มีความทันสมัย เอื้อต่อการเรียนรู้ในทุกที่ ทุกเวลา ซึ่งเป็นนวัตกรรมของการศึกษายุคใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้การเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่วยปรับการศึกษาไทยให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของศตวรรษที่ 21 ควบคู่ไปกับการขยายโอกาสการพัฒนาทักษะด้านภาษาให้ทั่วถึงแก่นักเรียน นักศึกษาทุกระดับ ทุกสาขาอย่างเท่าเทียม เอคโค่วี จึงสอดรับกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 โดยเฉพาะสำหรับการศึกษาสายอาชีพที่จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจในอนาคต ดังนั้น การส่งเสริมและสร้างทักษะทางภาษาให้ตรงตามความต้องการของภาคอุตสาหกรรม จึงเป็นการเสริมศักยภาพในการแข่งขันให้กับประเทศในอนาคตด้วยเช่นกัน
‘EchoVE อังกฤษดี ชีวิตไกล’ ได้ขยายผลมาสู่การแข่งขัน EchoVE Contest เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ซึ่งศักยภาพของนักเรียน นักศึกษา จากการแข่งขันในวันนี้เป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีถึงผลสัมฤทธิ์ของโครงการ ขอบคุณคณาจารย์และสถานศึกษา ที่ได้ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมต่าง ๆ พร้อมทั้งสนับสนุนการฝึกซ้อมของนักเรียน นักศึกษา ช่วยผลักดันให้นักเรียน นักศึกษา ได้พัฒนาศักยภาพโดยการฝึกฝนเพื่อให้เกิดการยกระดับคุณภาพการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันและนำไปใช้ในการประกอบอาชีพในอนาคต และขอให้นักเรียน นักศึกษาที่เข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขันในครั้งนี้ เก็บเกี่ยวประสบการณ์และสร้างแรงบันดาลใจเพื่อนำไปพัฒนาตัวเอง และพัฒนาประเทศต่อไป
ด้านดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวเพิ่มเติมว่า การแข่งขัน เอคโค่วี คอนเทสต์ในครั้งนี้มีสถานศึกษาที่ตอบรับเข้าร่วมการแข่งขันมากถึง 126 แห่ง จาก 61 จังหวัดทั่วประเทศ โดยการแข่งขันได้แบ่งออกเป็น 3 รอบ คือ รอบคัดเลือกตัวแทนจังหวัด รอบคัดเลือกตัวแทนภูมิภาค และรอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ สำหรับการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศระดับประเทศนี้ มีสถานศึกษาที่ผ่านการคัดเลือกเป็นตัวแทนจาก 5 ภูมิภาค ภูมิภาคละ 3 แห่ง รวมทั้งสิ้น 15 แห่ง
โดยรอบแรก “EchoVE Show Off” กติการ คือ แต่ละทีมมีเวลา 5 นาที บนเวทีแสดงสถานการณ์จำลอง บทบาทสมมุติการใช้ภาษาอังกฤษในวิชาชีพหัวข้อต่างๆ โดยแต่ละสถานศึกษาสามารถเลือกหัวข้อและเนื้อหาได้อย่างอิสระ เป็นการเตรียมจำลองสถานการณ์การใช้ภาษาอังกฤษตามวิชาชีพต่างๆ ในแอปพลิเคชัน (เช่น การโรงแรม, การตลาด, เลขานุการ, ช่างไฟฟ้า, ช่างยนต์, คอมพิวเตอร์ เป็นต้น) สามารถประยุกต์เพิ่มเติมจากเนื้อหาในแอปพลิเคชั่นได้ เพื่อแสดงบนเวที ความยาวไม่เกิน 5 นาที และไม่น้อยกว่า 3 นาที สถานศึกษาที่ทำคะแนนได้ดีที่สุด 6 ลำดับแรก จะได้ผ่านเข้าสู่รอบ Semi-Final “EchoVE Battle”
กติการอบสองคือ 6 ทีมผู้เข้ารอบ จะถูกสุ่มเพื่อจับคู่แข่งขันในรอบนี้ จะวัดทักษะด้านการฟัง และไวยากรณ์ ผ่านคำถาม 5 ข้อ (เรียงประโยคจากภาพ 3 ข้อ และเรียงประโยคจากเสียงที่พิธีกรอ่าน 2 ข้อ) โดยผู้แข่งขันจะต้องแข่งขันกันกดปุ่มให้ไฟติดเพื่อตอบคำถามในแต่ละข้อ ทีมที่ได้คะแนนมากกว่า จะผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศต่อไป
รอบชิงชนะเลิศ “EchoVE Final Round” กติกา คือ 3 ทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย จะแข่งขันกันโดยโชว์การแสดงในรอบ EchoVE Show Off กับคณะกรรมการอีกครั้ง และแข่งขันกันต่อด้วยกติกาเดียวกับของ EchoVE Battle ซึ่งทั้ง 3 ทีม แข่งขันกันตอบคำถามจำนวน 20 คำถามบนเวที แล้วนำคะแนนจากการแสดงและตอบคำถามมารวมกัน ทีมที่มีคะแนนมากที่สุดจะได้รับรางวัลชนะเลิศ รองชนะเลิศอันดับ 1 และรองชนะเลิศอันดับ 2 ตามลำดับ
สำหรับรางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีมวิทยาลัยสารพัดช่างอุดรธานีได้รับทุนการศึกษาจำนวนเงิน 50,000 บาท โล่เกียรติยศ และประกาศนียบัตรจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมกับไปศึกษาดูงานที่ประเทศสิงคโปร์ 5 วัน 4 คืน ทีมรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ทีมวิทยาลัยเทคโนโลยีดรุณาโปลีเทคนิคได้รับทุนการศึกษาจำนวนเงิน 30,000 บาท โล่เกียรติยศ และประกาศนียบัตรจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมกับไปศึกษาดูงานที่ประเทศสิงคโปร์ 3 วัน 2 คืน และทีมรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ทีมวิทยาลัยเทคนิคตราด ได้รับทุนการศึกษา จำนวนเงิน 15,000 บาท โล่เกียรติยศ และประกาศนียบัตรจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ