วันพุธ ที่ 17 กันยายน 2025

The National Innovation Agency (NIA) has joined forces in both public and private sectors to promote a knowledge sharing culture as well as develop databases for start-up enterprises or startups to use as a mechanism to help drive the Thai economy and society forward. Recently, NIA has initiated the...
ดัชนีการสร้างชาติ ไทยตก 2 อันดับ อยู่ที่ 52 ของโลก และที่ 4 อาเซียน ตามหลังเวียดนาม เหตุการเมืองยุ่ง ทุนมนุษย์ และการศึกษาแย่ ขณะที่ดัชนีการจัดการภาวะวิกฤต อันดับคงที่ อยู่ที่ 33 ของโลก ที่ 2 อาเซียน และดัชนีการจัดการเพื่อฟื้นตัวจากวิกฤต อันดับ 54 ของโลก ที่ 6 อาเซียน’ ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ประธานสถาบันการสร้างชาติ จัดแถลงผลการจัดอันดับดัชนีการสร้างชาติ ดัชนีการจัดการวิกฤต และ ดัชนีการจัดการเพื่อฟื้นตัวจากวิกฤต ประจำปี 2021 เมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา ในการประชุมนานาชาติเพื่อการสร้างชาติ ครั้งที่ 5 ประจำปี 2021 ภายใต้หัวข้อ ‘นวัตกรรมยุทธศาสตร์การฟื้นจากวิกฤตและการสร้างชาติ’ ซึ่งสถาบันการสร้างชาติได้จัดขึ้น โดยเป็นการประชุมทางไกลที่มีวิทยากรกว่า...
NIA เปิดรายงานการพัฒนาระบบนิเวศวิสาหกิจเริ่มต้นประเทศไทย ปี 2564 พร้อมเร่งเครื่องเดินหน้าขับเคลื่อนไทยก้าวสู่ ‘ประเทศแห่งสตาร์ทอัพ’             สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อส่งเสริมแหล่งความรู้ ตลอดจนการพัฒนาฐานข้อมูลให้แก่กลุ่มวิสาหกิจเริ่มต้นหรือสตาร์ทอัพ สำหรับใช้เป็นกลไกหนึ่งที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทยให้ก้าวหน้า ซึ่งล่าสุด NIA ได้ริเริ่มและจัดทำ ‘รายงานการพัฒนาระบบนิเวศวิสาหกิจเริ่มต้นประเทศไทย ประจำปี 2564’ ซึ่งจะนำเสนอข้อมูลภาพรวมภูมิทัศน์ของระบบนิเวศสตาร์ทอัพในปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นแนวทางในการส่งเสริมสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ ให้มีความสามารถในการประกอบธุรกิจรวมถึงแข่งขันกับคู่แข่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีระบบนิเวศสตาร์ทอัพ (Startup Ecosystem) ที่เอื้อต่อการประกอบธุรกิจมากขึ้น เพื่อเร่งสร้างผู้ประกอบการรายใหม่ที่ใช้องค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างเป็นระบบ             ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการ NIA กล่าวว่า “รายงานการพัฒนาระบบนิเวศวิสาหกิจเริ่มต้นประเทศไทย ประจำปี 2564 เป็นรายงานฉบับที่ 4 ที่ได้จัดทำต่อเนื่องมาตลอดตั้งแต่ปี 2557 โดยได้รับความร่วมมือจากประชาคมกว่า 300 ราย ทั้งกลุ่มสตาร์ทอัพไทยและต่างชาติ นักลงทุน ภาคการศึกษา ภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง...
การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด 19 หลากสายพันธุ์ตั้งแต่ปลายปี 2562 นับเป็นจุดเริ่มต้นของการระบาด ล่าสุดกับการระบาดหนักของสายพันธุ์เดลต้าที่กระจายเชื้อได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ยากจะประเมินว่า “เมื่อใดการระบาดจะยุติลง” แต่ทว่า ทุกวิกฤตย่อมมีโอกาสแฝงอยู่เสมอ ดังนั้น “การเรียนรู้ที่จะอยู่กับโควิด 19”  และหาทางรอด จึงเป็นสิ่งที่ผู้คน ภาคธุรกิจ เริ่มให้ความสำคัญมากขึ้น เพื่อรับมือกับวิกฤตที่ยังมองไม่เห็นจุดจบนี้ “ความปลอดภัยของพนักงาน” ปัจจัยสำคัญ “ดันธุรกิจเดินหน้าต่อเนื่อง”             มีคำถามมากมาย ตั้งแต่เริ่มมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ว่า SCG อยู่ในภาคการผลิตและการบริการซึ่งมีระบบซัพพลายเชนที่หลากหลาย มีการจัดการให้ธุรกิจสามารถดำเนินการได้ต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในยุคโควิด 19 ได้อย่างไร ที่ SCG ได้ปรับการทำงานเป็นรูปแบบ Hybrid Workplace แบ่งประเภทการทำงานเป็น 2 ส่วนหลัก คือ ให้พนักงานออฟฟิศ ทำงานจากที่บ้าน หรือ Work From Home ส่วนพนักงานในสายการผลิตที่ทำงานในโรงงาน แบ่งเป็น Critical กับ Non-Critical ตามมาตรการ Bubble and Seal แยกพนักงานออกเป็น 2 กลุ่ม เพื่อให้สามารถบริหารจัดการการผลิตสินค้าได้แม้จะมีผู้ติดเชื้อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง “เราบอกกับพนักงานทุกคนว่า วิกฤตครั้งนี้ส่งผลกระทบค่อนข้างลึก และมีผลกระทบในวงกว้าง สิ่งหนึ่งที่เราต้องพยายามทำให้มากที่สุดคือมองหาโอกาส โดยต้องยืดหยุ่นและปรับตัว (Resilience) ให้ทันต่อพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา” รุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี กล่าว “ปรับตัวไว” ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล พัฒนากระบวนการผลิต เชื่อมความต้องการลูกค้า SCG มีประสบการณ์และเรียนรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภคมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง รู้ว่าผู้บริโภคต้องการอะไร เมื่อใดที่ต้องการใช้สินค้า จากเดิมที่ผู้บริโภคต้องการสินค้าและบริการเพื่อสร้างบ้านใหม่ สำนักงานใหม่ แต่ปัจจุบัน วิถีชีวิตการทำงานจากที่บ้าน ทำให้ SCG ยกระดับการทำธุรกิจไปสู่การผลิตสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในการปรับพื้นที่ในบ้านให้อยู่สบาย ขณะเดียวกันก็สามารถ Work From...
เทรนด์ไมโคร เผยการติดตามอาชญากรรมทางไซเบอร์และภัยคุกคามที่ฉวยโอกาสจากการแพร่ระบาด พร้อมอัปเดตเกี่ยวกับแนวโน้มกิจกรรมประสงค์ร้าย และการอาศัยประโยชน์จากการระบาดของโควิด-19 รวมถึงกระบวนการสร้างและพัฒนาวัคซีนในทั่วโลก สร้างความตื่นตระหนกด้วยการให้ข้อมูลผิดๆเกี่ยวกับกระแสการใช้วัคซีนเพื่อกิจกรรมประสงค์ร้ายผ่านออนไลน์               ปิยธิดา ตันตระกูล ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เทรนด์ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย “ตั้งแต่ปลายปี 2563 เป็นต้นมา อาชญากรไซเบอร์เริ่มกำหนดเป้าหมายไปที่บริษัทและผู้บริโภค โดยอาศัยในเรื่องของการพัฒนา การรับรู้ การผลิต และการจัดจำหน่ายวัคซีนเป็นตัวล่อ โดยระบบตรวจจับของเราพบว่ามีความพยายามในการโจมตีด้วยการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพิ่มขึ้น จุดสูงสุดคือช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2563 มีทั้งเรื่องของฟิชชิ่ง การหลอกลวง การเจาะช่องโหว่ แอปฯปลอม และมัลแวร์ (เช่น แรนซัมแวร์) บนอุปกรณ์มือถือหลากหลายรูปแบบ  นอกเหนือจากการนำเอาเทคนิคเก่ามาใช้ใหม่ในการหลอกล่อผู้ใช้ด้วยข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนแล้ว มีความเป็นไปได้ว่าอาชญากรไซเบอร์ยังคาดการณ์ว่า ประชาชนทั่วไปจะสนใจข่าวสารที่เกี่ยวกับขั้นตอนสุดท้ายของการทดสอบวัคซีน ตลอดจนข่าวที่เกี่ยวกับแผนการกระจายวัคซีนอย่างต่อเนื่อง”             กลวิธี เป้าหมายและกิจวัตร จากข้อมูลการตรวจสอบพบว่ามีการนำเอาทั้งแนวทางกระบวนการทางสังคมทั้งเก่าและใหม่ ผสานกับแนวทางในการใช้มัลแวร์แบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกิจวัตร รูปแบบการหลอกลวง และการโจมตีตามกระแสในการกระจายวัคซีนทั่วโลก             พุ่งเป้าไปที่ซัพพลายเชนด้านการขนส่งที่มีการควบคุมอุณหภูมิ (cold chain)...
กิจกรรมพัฒนาคลัสเตอร์ Digital Content ภายใต้โครงการสนับสนุนและพัฒนาคลัสเตอร์ SME ปี 2564 ร่วมกับ  มหาวิทยาลัยศิลปากร พร้อมพันธมิตรในอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ เครือสหพัฒน์  ช้อปปี้ (ประเทศไทย)   จัดสัมมนาออนไลน์ เชิญผู้เชี่ยวชาญจาก Shopee University ให้ความรู้ในหัวข้อ Getting Started with "Shopee Ads" ติดปีกผู้ค้าออนไลน์ ถึงวิธีการกระตุ้นยอดขายและการรับรู้ของร้านค้า ด้วยการทำโฆษณาบน ช้อปปี้ อย่างทรงประสิทธิภาพ             โดยสัมมนาครั้งนี้เป็นกิจกรรมต่อยอดจากโครงการ Thai Character Designer X Fashion Collaboration Project ที่รับสมัครและคัดเลือกผู้ประกอบการ SME และนักออกแบบ นำผลงานด้านคาแรคเตอร์มาต่อยอดเป็นสินค้า ในกลุ่ม Fashion อาทิ เสื้อผ้าบุรุษ-สตรี-เด็ก ชุดชั้นใน Home textile และ...
ชื่อของ “ไห่หนาน”หรือ“ไหหลำ” เป็นชื่อที่คนไทยคุ้นเคยมาช้านาน เนื่องจากไทยมีประชากรเชื้อสายไห่หนานอยู่จำนวนมาก มีการรักษาวัฒนธรรมไห่หนานไว้อย่างเหนียวแน่น และยังมีการรวมกลุ่มที่มีความเข้มแข็งเป็นอย่างมาก             ในบรรดาประเทศพันธมิตรทางการค้าของไทย จีนเป็นประเทศคู่ค้าและตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทยมาโดยต่อเนื่อง ด้วยขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่และมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยมีมูลค่าการค้าระหว่างกันในปีที่ผ่านมาสูงถึง 2.5 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 18.26 ของมูลค่าการค้าระหว่างประเทศของไทยโดยรวม และสำหรับมณฑลไห่หนานในปี 2563 แม้ว่าโลกจะเผชิญกับผลกระทบจากวิกฤติโควิด 19 แต่การค้าระหว่างมณฑลไห่หนานกับไทยยังคงมีมูลค่าสูงถึงราว 9,233 ล้านบาท (295.07 ล้านเหรียญฯ)             พลันที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มีโอกาสเข้าร่วมพิธีเปิดงาน CIIE ครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้านานาชาติเพื่อการเจรจาทางการค้าส่งเสริมการนำเข้าตามนโยบายการเปิดกว้างทางเศรษฐกิจของจีน เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนปี 2563 และได้รับฟังคำกล่าวเปิดงานของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เกี่ยวกับทิศทางการพัฒนาจีนในอีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งมีประเด็นสำคัญ 2 ประเด็น คือ 1. จีนจะสนับสนุนความร่วมมือทางการค้าทั้งพหุภาคีและทวิภาคี และ...
ในประเทศไทยมีบ้านทั้งหมด 27.2 ล้านหลังคาเรือน มีเพียงแค่ 3.2 หลังคาเรือนเท่านั้นที่มีประกันบ้าน ในขณะที่สัดส่วนผู้มีประกันบ้านในประเทศสหรัฐอเมริกา สูงถึงประมาณ 80% หรือแม้กระทั่งแถบเพื่อนบ้านทางเอเชียอย่างจีน สัดส่วนผู้ประกันบ้านในประเทศยังสูงถึง 70%           สมบัติส่วนตัวในชีวิตที่ทุกครอบครัวใฝ่ฝันและลงทุนเก็บเงินกู้ยืมเพื่อให้ได้มาก็คือ บ้านและรถยนต์  ในขณะที่รถยนต์มีผู้เอาประกันกว่า 55% (จำนวนทั้งหมด 11 ล้าน กรรมธรรม์ จากจำนวนรถยนต์ทั้งหมด 20 ล้านคัน , ที่มา สำนักงานเบี้ยอัตราประกันวินาศภัย และ กรมขนส่งทางบก) แต่บ้านมีแค่ 12% (จำนวนทั้งหมด 3.2 ล้าน กรรมธรรม์ จากบ้านทั้งหมด 27 ล้านหลัง, ที่มา สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย และ สำนักบริหารการทะเบียน) แต่จำนวนเงินประกันต่อรถยนต์หนึ่งคันต่อปี (3%) แต่เงินประกันบ้านแค่เพียง (0.2-0.5%) ของมูลค่าบ้านเท่านั้น มหาวิกฤตโควิดในช่วงสองปีที่ผ่านมา ได้เปลี่ยนพฤติกรรมผู้คนอย่างรุนแรงในหลายด้าน และพฤติกรรมบางด้านหลังจากโควิดผ่านไปแล้วก็จะยังคงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกรรมออนไลน์...
นักวิชาการด้านโรงแรมและธุรกิจอาหาร ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ หนุนภาครัฐผ่อนปรน “ร้านอาหาร” ขายในห้างฯ และสั่งซื้อผ่านแอปฯฟู้ดเดลิเวอรี่ ชี้! ทางรอดยุคปิดเมือง หนี โควิด-19 เน้น “สร้างรายได้” เท่านั้น สรุป! 4 หนทางเพิ่มยอดขาย “เพิ่มช่องทางขาย ออนไลน์ – โปรโมทร้าน – เข้าร่วมโครงการสนับสนุนจากภาครัฐ – สร้างจุดขาย ผ่าน CSR ” เผย! ยอดขายอาหารและเครื่องดื่มหลังร่วมแอปฯฟู้ดเดลิเวอรี่ เพิ่ม 60-70%             ผศ.ธารีทิพย์ ทากิ อาจารย์ประจําสาขาการโรงแรมและธุรกิจอาหาร คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เผยถึง “ข้อเสนอทางรอด” ของธุรกิจร้านอาหาร และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายว่า จากการจัดเวทีเสวนาแบบกลุ่มย่อยหรือ “โฟกัสกรุ๊ป” โดยเชิญตัวแทนผู้ประกอบการร้านอาหารและผู้ให้บริการแพลตฟอร์มหรือแอปพลิเคชั่นฟู้ดเดลิเวอรี่ เข้าร่วมประชุมผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อรับฟังความคิดเห็น สรุปประเด็นปัญหาและข้อเสนอแนะจากทุกฝ่าย เมื่อเร็วๆ นี้             ได้ข้อสรุปว่ามาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายหรือโครงการส่งเสริมยอดขายเพื่อสร้างรายได้ของร้านอาหารให้เพิ่มขึ้น...