📍นิคมอุตสาหกรรม
พัฒนาพื้นที่เพื่อการอุตสาหกรรมโดย กนอ. หรือร่วมดำเนินงานกับภาคเอกชน พ.ร.บ.การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ.2522 โรงงานที่ตั้งอยู่ในนิคมฯ จะได้รับสิทธิประโยชน์ตาม พ.ร.บ.โรงงาน ทั้งทางภาษีและมิใช่ภาษี ตามที่ พ.ร.บ.กำหนด
📍 เขตประกอบการอุตสาหกรรม
พัฒนาพื้นที่เพื่อการอุตสาหกรรมโดยภาคเอกชน ที่ได้รับการสนับสนุนประกาศเป็นเขตประกอบการ ตาม ม.30 ตาม พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535 โรงงานที่ตั้งอยู่จะได้รับสิทธิประโยชน์ตามที่ พ.ร.บ.กำหนด
📍สวนอุตสาหกรรม
เป็นการพัฒนาพื้นที่ของภาคเอกชน โดยไม่ได้รับการสนับสนุนจากส่วนงานราชการ โรงงานที่ตั้งอยู่ต้องขออนุญาตตาม พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535 เหมือนตั้งอยู่ในพื้นที่ทั่วไป
สำหรับหน้าที่ความรับผิดชอบหลักของผู้พัฒนาโครงการทั้ง 3 รูปแบบที่เหมือนกันคือ จะต้องจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมก่อนเริ่มพัฒนาโครงการ มีการจัดหาบริการสาธารณูปโภคพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อย่างครบถ้วน
ปัจจุบัน กนอ.มีนิคมอุตสาหกรรมที่กำกับดูแลอยู่ ทั้งที่เป็นนิคมฯ ที่ดำเนินงานเองและร่วมดำเนินงานกับเอกชน รวม 68 แห่ง และ 1 ท่าเรืออุตสาหกรรม
การเปลี่ยนแปลงในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตและภาคเศรษฐกิจ การตลาดขายของออนไลน์ในปัจจุบันมีพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เพิ่มขึ้นจำนวนมาก เกิดร้านใหม่ ๆ ที่ตั้งราคาขายถูกเพื่อตัดราคาร้านอื่น หรือผลกระทบจากร้านค้าจีนเข้ามาทำตลาดขายสินค้าเองในไทย หากคุณต้องการจะรอดพ้นจากสงครามราคานี้ โดยไม่ต้องลดต้นทุนควรทำอย่างไร
เบสท์ เอ็กซ์เพรส ในฐานะผู้ให้บริการ รับ-ส่ง พัสดุด่วนทั่วไทยที่มีสาขาให้บริการกว่า 1,200 สาขา ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ เผยเทคนิคการเอาตัวรอดจากสงครามราคาสำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ในยุคนี้ด้วย 4 วิธีง่าย ๆดังนี้
1) สร้างตัวเองให้เป็นมากกว่าร้านค้าทั่วไป นอกจะเป็นหน้าร้านขายของแล้วต้องมีบริการแบบครบวงจร อย่างการจัดส่งสินค้าถึงหน้าบ้านหรือการให้คำปรึกษาหลังการขาย เป็นกลยุทธ์ที่ดึงลูกค้าให้อยู่กับเราได้ เกิดความผูกพันระหว่างร้านค้าและลูกค้า
2) สร้างความแตกต่างของสินค้า ลองนำสินค้าที่ขายมาต่อยอด คิดค้นสินค้าใหม่ ๆ โดยอาศัยสินค้าเดิมมาต่อยอด (ลดต้นทุนการหาวัตถุดิบได้)
3) ตรวจสอบกลยุทธ์การตลาด ลองใช้กลยุทธ์ที่ทำให้ลูกค้าไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ โดยไม่เป็นการเพิ่มต้นทุนของเรา เช่นการเก็บข้อมูลและศึกษาว่าลูกค้าประจำว่าชอบซื้อสินค้าอะไรบ้าง
4) ฟังเสียงลูกค้า เป็นสิ่งที่ควรจะทำและต้องใส่ใจ ให้ลูกค้าแสดงความคิดเห็นผ่านระบบ google form หรือใบแสดงความคิดเห็นหน้าร้าน แลกกับส่วนลดหรือของรางวัลเล็ก ๆ น้อย...
เมื่อต้นปีนี้ TasteAtlas ได้จัดอันดับ 100 เครื่องดื่ม (ไม่มีแอลกอฮอล์) อร่อยที่สุดในโลก แน่นอนว่า "ชาเย็น" หรือ "ชาไทย" ก็เป็นหนึ่งที่ติดในทำเนียบดังกล่าว โดย 10 อันดับแรกของเครื่องดื่มยอดนิยม คือ
อันดับ 1 Hong Kong-Style Milk Tea จากฮ่องกง
อันดับ 2 Aguas Frescas จากเม็กซิโก
อันดับ 3 Chai masala จากอินเดีย
อันดับ 4 Maghrebi Mint Tea จากอัลมัฆริบ
อันดับ 5 Horchata (Mexico) จากเม็กซิโก
อันดับ 6 Salepจากตุรกี
อันดับ 7 ชาไทยเย็นจากประเทศไทย
อันดับ 8 El submarine จากอาร์เจนตินา
อันดับ 9 Ristretto...
ม.มหิดลร่วมเรียนรู้ชุมชนต้นแบบ 'เปลี่ยนขยะสู่ผลิตภัณฑ์สร้างรายได้' นำนักศึกษาหลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต โครงการจัดตั้งวิทยาเขตอำนาจเจริญ มหาวิทยาลัยมหิดล ลงพื้นที่แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ หมู่บ้านราชธานีอโศก จังหวัดอุบลราชธานี" ซึ่งเป็นชุมชนตัวอย่างที่สามารถ "เปลี่ยนขยะให้เป็นทองคำ"
ก่อนที่ขยะจะเข้าสู่กระบวนการแปรรูปจะต้อง "สิ้นเปลืองพลังงาน" ต่อไปอีกมากมาย จะดีกว่าหรือไม่หากทุกคนเพียงช่วยกันวางแผนจัดการ "คัดแยกก่อนทิ้ง"
อาจารย์พัทธจารี กระแสเสน ร่วมกับทีมอาจารย์ประจำหลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต โครงการจัดตั้งวิทยาเขตอำนาจเจริญ มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ประสมรักษ์ อาจารย์ศิริพร ศิริกัญญาภรณ์ และ อาจารย์ ดร.กรกวรรษ ดารุนิกร เจ้าของโครงการและผู้ประสานงานหลัก จัดทำโครงการ "การจัดการขยะแบบเบ็ดเสร็จระดับชุมชนและครัวเรือน" ร่วมเรียนรู้บริบทชุมชน "หมู่บ้านราชธานีอโศก จังหวัดอุบลราชธานี" ซึ่งเป็นชุมชนตัวอย่างที่สามารถ "เปลี่ยนขยะให้เป็นทองคำ"
จากการนำนักศึกษาหลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต โครงการจัดตั้งวิทยาเขตอำนาจเจริญ มหาวิทยาลัยมหิดล ลงพื้นที่แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ อันเป็น "ปัญญาของแผ่นดิน" ร่วมเรียนรู้การจัดการขยะ "หมู่บ้านราชธานีอโศก จังหวัดอุบลราชธานี" ซึ่งมีรายได้หลักจากการแปรรูปขยะสู่ผลิตภัณฑ์สร้างรายได้แก่ชุมชนอย่างยั่งยืน
เริ่มต้นจากการคัดแยกขยะ โดยนำขยะอินทรีย์ไปทำเป็นผลิตภัณฑ์ปุ๋ยหมักชีวภาพ น้ำหมักชีวภาพ นำไปบำรุงพืชผักสมุนไพรออร์แกนิกที่ปลูกไว้ในพื้นที่ สร้างแหล่งอาหารที่มีคุณภาพให้กับชุมชน และนำผลผลิตไปแปรรูปสานต่อสู่ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ อาทิ...
ในการดำเนินธุรกิจเมื่อผู้ประกอบการได้ดำเนินธุรกิจมาระยะหนึ่งแล้ว เริ่มมองถึงการเติบโตในอนาคตก็คงจะต้องเริ่มพิจารณาว่าควรจะจดทะเบียนบริษัทหรือยัง ซึ่งการจดทะเบียนบริษัทมีประโยชน์อย่างไร และจะเหมาะสมกับธุรกิจที่มีลักษณะแบบไหน ยุ่งยากหรือไม่ finbiz by ttb จึงได้รวบรวมข้อมูลมานำเสนอเพื่อให้ผู้ประกอบการ SME มีความเข้าใจเรื่องนี้อย่างถูกต้อง
จดทะเบียนบริษัทดีอย่างไร? การจดทะเบียนเป็นบริษัทจะสร้างความได้เปรียบให้กับองค์กรในมิติต่าง ๆ ดังนี้
1. ความน่าเชื่อถือ การจดทะเบียนบริษัทจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับองค์กรได้ โดยมีสถานะเป็น “นิติบุคคล”
2. คุ้มครองความรับผิดชอบของเจ้าของธุรกิจ เพราะความรับผิดชอบจะเป็นของบริษัท เช่น ในกรณีที่เป็นหนี้สินของกิจการ เจ้าหนี้ไม่สามารถยึดทรัพย์สินส่วนตัวของเจ้าของกิจการ หรือผู้ถือหุ้นได้
3. ความได้เปรียบด้านภาษี
มีโอกาสเสียภาษีต่ำกว่า เพราะสามารถหักค่าใช้จ่ายตามจริงไม่ต้องเสียภาษีในกรณีที่ขาดทุนได้รับการยกเว้นภาษีในกำไร 3 แสนบาทแรก
อัตราภาษี 15% ในกรณีที่กำไรไม่เกิน 3 ล้านบาท
4. ความได้เปรียบด้านการสนับสนุน
มีโอกาสที่ในการพิจารณาสินเชื่อได้ดีกว่า เพราะในภาพรวมนิติบุคคลจะได้เปรียบกว่าบุคคลธรรมดา และได้รับการสนับสนุนจากมาตรการต่าง ๆ จากภาครัฐฯ
ธุรกิจควรเป็นบริษัทเมื่อไหร่?
แม้ว่าการจดทะเบียนบริษัทจะได้เปรียบในมิติต่าง ๆ ก็ตาม แต่ก็ควรจะจดทะเบียนบริษัทเมื่อมีคุณสมบัติที่เหมาะสม หรือมีวัตถุประสงค์ที่แน่นอนในการก่อตั้งบริษัท ดังต่อไปนี้
1. มีรายได้มากกว่า 750,000 บาทต่อปี
2. เริ่มมีผู้ร่วมลงทุนหลายคน
3. ต้องการสร้างเครดิตทางบัญชี สร้างความน่าเชื่อถือ
4. คาดการณ์แล้วว่าอนาคตจะเติบโตอย่างแน่นอน
5. ...
มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. แชร์ 5 ไอเดียกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์แม่ลูก ใช้เวลาร่วมกับแม่แบบเต็มอิ่ม และสุขใจ ในวันแม่ 2566
มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ผู้นำด้านค้าปลีกสินค้าตกแต่ง และซ่อมแซมบ้านที่มีสาขามากที่สุดในประเทศไทย ต้อนรับวันแม่ 2566 ด้วยการชวนลูกๆ มาใช้เวลาแห่งความพิเศษนี้ร่วมกับคุณแม่ ผ่าน 5 ไอเดียกิจกรรมสนุกๆ ที่จะช่วยกระชับความสัมพันธ์แม่ลูก ให้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น เป็นโอกาสดีที่จะได้แสดงความรัก ความห่วงใยในแบบของตัวเองให้คุณแม่ได้ใจฟู พร้อมแนะนำไอเดียของขวัญสุดหลากหลาย ในราคาเบาๆ จากมิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ที่จะมาเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความสุขกับกิจกรรมเหล่านี้ไปพร้อมๆ กัน
เริ่มต้นที่กิจกรรมแรก สำหรับครอบครัวที่มีคุณแม่ลงมือทำอาหารให้ทานเป็นประจำ หรือครอบครัวที่ปกติคุณแม่ไม่ค่อยมีเวลาทำอาหารทานเอง ลองชวนคุณแม่มาทำอาหาร อ้อนให้มาเข้าครัว สอนเคล็ดลับ แบ่งปันสูตรอาหาร และขนมที่ทุกคนในครอบครัวชื่นชอบ อาจจะลองหยิบกระทะมาสร้างสรรค์เมนูทอดอร่อยๆ ทานเล่นได้ทั้งครอบครัว เช่น ไก่ทอด หมูกรอบ ทอดมัน หรือลองผิดลองถูกกับสูตรอาหารใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อนไปด้วยกัน แต่สำหรับคนที่อยากเพียงแค่ได้ทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ ให้คุณแม่ได้ชิม อาจลองหยิบกาสำหรับกรองชาสักใบมาชงชาร้อนหอมๆ ให้คุณแม่ได้จิบผ่อนคลายในเทศกาลวันหยุดแบบนี้...
เพจ บ้านค่าย บ้านเรา จ.ระยอง เผยแพร่ข้อมูลว่า เมื่อเวลา 01:30 น. อาสาร่วมกตัญญูระยอง บ้านค่าย จ.ระยอง ได้รับแจ้งเหตุ 200 คนถูกทำร้ายร่างกาย จึงรีบรุดไปตรวจสอบ พบเจ้าหน้าที่ 3BB ให้การว่า ขณะออกปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบความเรียบร้อยของสายเคเบิล ขับรถมาถึงหน้าวัดห้วงหิน อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ เจอคนร้าย 2 คนกำลังตัดสายเคเบิล จึงลงไปตักเตือน กลับถูกทำร้ายร่างกายด้วยการใช้คีมตัดเหล็กตีที่ศีรษะ ก่อนคนร้ายจะทิ้งรถจักรยานยนต์แล้วหลบหนีไป พร้อมขอความร่วมมือใครพบเจอรู้จักเจ้าของรถช่วยแจ้งเบาะแสที่ สภ. บ้านค่าย เพื่อจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีและไม่ให้ก่อเหตุเช่นนี้ในพื้นที่อื่นๆต่อไป
เมื่อเร็วๆ นี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประชาสัมพันธ์แนวทางการอนุญาตให้จัดตั้งธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) ที่คาดว่าจะเริ่มให้บริการในปี 2568 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของลูกค้าบุคคลและธุรกิจรายย่อย หลายๆ ท่านอาจสงสัยว่า ลูกค้ารายย่อยที่ธนาคารแบบดั้งเดิมยังไม่ให้กู้ แล้วธนาคารไร้สาขาที่ไม่รู้จักลูกค้าเลยจะให้กู้ได้อย่างไร
เงื่อนไขหนึ่งในหลักเกณฑ์การขอจัดตั้ง Virtual Bank คือ ความสามารถในการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่หลากหลาย โดยวิธีการได้มาซึ่งข้อมูลดังกล่าวต้องชัดเจนและเป็นไปได้ เราจะเห็นผู้ที่มีข้อมูลลูกค้าจำนวนมาก มีความเชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยี จับมือกับสถาบันการเงิน ลงมาเล่นในสนามนี้ เพื่อให้บริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ทุกฝ่าย โดยทำการพิจารณาความน่าเชื่อถือของผู้ขอกู้เงินผ่านปัจจัยแวดล้อมที่สะท้อนแบบแผนการดำเนินชีวิต หรือเรียกว่าข้อมูลทางเลือก (Alternative data) เช่นความสม่ำเสมอในการชำระค่าโทรศัพท์ พฤติกรรมและประเภทของสินค้าที่ซื้อบ่อย หรือการใช้แบบสอบถามด้านจิตวิทยา (Psychometrics)
แบบสอบถามด้านทางจิตวิทยา เป็นชุดคำถามที่ค้นหาพฤติกรรมทางการเงินจากการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การตัดสินใจด้านการเงิน ความยับยั้งชั่งใจในการจำกัดรายจ่าย คำถามเกี่ยวกับวินัยในการใช้ชีวิตและการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความวิตกกังวล โดยแบบสอบถามดังกล่าวจะต้องพิจารณาปัจจัยด้านสังคมและวัฒนธรรมต่างๆ เพื่อเฟ้นหาลักษณะนิสัยที่บ่งชี้พฤติกรรมการชำระหนี้ได้ใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด
มีการศึกษาในประเทศมองโกเลียที่ให้ผู้เข้าร่วมการศึกษาพิจารณาภาพโต๊ะทำงานต่างๆ ตั้งแต่โต๊ะทำงานที่มีข้าวของรกมาก จนถึงโต๊ะทำงานที่เป็นระเบียบ ผู้เข้าร่วมการทดลองต้องตอบคำถามว่า ท่านสามารถปล่อยให้โต๊ะทำงานของท่านรกถึงระดับใด ก่อนทำการลุกขึ้นมาจัดระเบียบ ผลการศึกษาพบว่า ผู้ที่ชอบความเป็นระเบียบของโต๊ะ มักจะมีวินัยทางการเงินที่ดีกว่าผู้ที่ตอบว่าสามารถปล่อยให้โต๊ะทำงานรกได้มากกว่า หรืออีกการศึกษาหนึ่งในรัฐอุตตรประเทศและรัฐมหาราษฏระของประเทศอินเดียพบว่า ผู้ประกอบการรายย่อยที่มีพฤติกรรมวัตถุนิยมมักจะมีโอกาสผิดนัดชำระหนี้สูงกว่าปกติอย่างมีนัยสำคัญ
จุดอ่อนที่ธนาคารควรระวังในการอาศัยแบบสอบถามด้านทางจิตวิทยาเพียงอย่างเดียวคือผู้ตอบแบบสอบถามอาจจะเลือกตอบแบบสอบถามเข้าข้างตัวเอง...
ปัจจุบันการแข่งขันในตลาดสูงขึ้น อีกทั้งลูกค้ายังมีโอกาสเลือกได้ตลอดเวลา เรียกได้ว่าไม่มีแบรนด์ในดวงใจที่แท้จริง ลูกค้าพร้อมเปลี่ยนได้ทุกเมื่อ เมื่อมีแบรนด์ที่ถูกใจกว่า SME จึงต้องเร่งสร้างแบรนด์ให้สามารถดึงดูดหัวใจลูกค้าไว้ได้ตลอดเวลา และไม่เปลี่ยนใจไปหาแบรนด์อื่นได้ง่าย ๆ
หากเปรียบเทียบธุรกิจกับการหาลูกค้าเป็นเสมือนการหาปลา การทำธุรกิจในยุคแรก ๆ นั่งตกปลาแบบสบาย ๆ ก็มีปลามากินเหยื่อ แต่ยุคนี้ปลาพร้อมจะหาแหล่งอาหารใหม่ได้ทุกเมื่อ ดังนั้น การทำธุรกิจจึงต้องเปลี่ยนวิธีคือ ไปทุกที่ ดักทุกทาง เพราะตลาดได้เปลี่ยนไปแล้ว ปัจจุบันต้องเชื่อมทุกช่องทางแบบ Omni-Channel เพื่อให้ตามไปถึงกลุ่มเป้าหมาย และทำให้ทุก Touch Point สร้างประสบการณ์ที่ดี ลูกค้ารักแบรนด์และอยากอยู่ด้วยกันไปนาน ๆ งานสัมมนา “finbiz industry hack 2023 ติดอาวุธ…สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน” จัดโดย finbiz by ttb แนะ 3 เคล็ด (ไม่) ลับ SME ต้องสร้างแบรนด์อย่างไร เพื่อดึงดูดใจลูกค้ายุคดิจิทัล
1....
“นาก” ไม่ใช่สัตว์เลี้ยง! นักวิจัย มจธ. เปิดผลสำรวจภัยคุกคาม “นาก” ในพื้นที่ชุ่มน้ำฝั่งอันดามัน 5 จังหวัดภาคใต้ พบภัยคุกคามที่น่ากังวลและควรเร่งจัดการ ปัญหาคือการจับนากจากธรรมชาติไปเป็นสัตว์เลี้ยง ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และเป็นสาเหตุสำคัญทำให้นากมีแนวโน้มลดลง เรียกร้องสร้างความเข้าใจการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนในพื้นที่ทับซ้อนของคนกับนาก
นาก เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ออกลูกครั้งละ 3-4 ตัว ธรรมชาติของนากมีทั้งที่รวมกลุ่มกันเป็นฝูงและอยู่ตัวเดียว พบได้บ่อยในพื้นที่ชุ่มน้ำและแหล่งน้ำตามธรรมชาติ รวมทั้งพื้นที่ชายฝั่ง โดยเฉพาะป่าชายเลนทางภาคใต้ของไทย นากมีสถานภาพเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองที่ไม่มีการอนุญาตให้ล่าหรือเพาะเลี้ยงเพื่อการค้า ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่ามีจำนวนคงเหลือเท่าใด แต่มีแนวโน้มลดลงจากภัยคุกคามในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะการนำนากมาเป็นสัตว์เลี้ยง ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและเสี่ยงทำให้นากอายุสั้นจากการเลี้ยงที่ไม่ถูกต้องตามนิเวศวิทยาของสัตว์
นาก จะเติบโตและขยายพันธุ์ได้ดีในธรรมชาติ การนำมาเลี้ยงโดยไม่เข้าใจเรื่องสุขภาพของนากและเลี้ยงเหมือนสัตว์เลี้ยงอื่นๆ (เลี้ยงในกรง) อาจทำให้นากอายุสั้น และไม่ขยายพันธุ์ในรุ่นต่อๆ ไป หรือพอเลี้ยงโตแล้วนำไปปล่อยก็มีโอกาสรอดยากและเสี่ยงต่อการนำโรคไปสู่นากในธรรมชาติ
ผศ. ดร. นฤมล ตันติพิษณุ และนายอนุชา ขำจริง นักวิจัยจากสถาบันพัฒนาและฝึกอบรมโรงงานต้นแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ได้ทำวิจัยในโครงการประเมินภัยคุกคาม และการจัดลำดับความสำคัญของการจัดการเพื่อการอนุรักษ์นากอย่างยั่งยืน ในพื้นที่ชุ่มน้ำชายฝั่งภาคใต้ของประเทศไทย ฝั่งอันดามัน โดยได้รับทุนวิจัยจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม...