เมืองไทยประกันภัย รุดลงพื้นที่จ่ายค่าสินไหม

1002

นางนวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) พร้อมคณะผู้บริหารและทีมงาน รุดลงพื้นที่ช่วยเหลือเยียวยาจ่ายค่าสินไหมทดแทน ให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญกราดยิงประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่จังหวัดนครราชสีมา รวมทั้งมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยในเหตุการณ์ครั้งนี้ โดยมี คุณวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้แทนรับมอบ

เหตุการณ์ที่เทอร์มินัล 21 จ.นครราชสีมา นับเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญครั้งใหญ่ของคนไทยทั้งประเทศ ตนขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งไปยังครอบครัวผู้สูญเสีย ขอส่งกำลังใจไปยังผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และชาวโคราชทุกคนให้ผ่านพ้นช่วงเวลานี้ได้โดยไว พร้อมขอเชิดชูเจ้าหน้าที่ และเหล่าผู้กล้าจากหน่วยงานต่างๆ ที่เสียสละกายและชีวิตเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้ บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้รับประกันภัย ได้จัดตั้งทีมงานพิเศษ เพื่อดำเนินการเร่งรัดกระบวนการจ่ายค่าสินไหมทดแทน โดยในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2563 คุณนวลพรรณและทีมงาน ได้เดินทางไปยัง ศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดนครราชสีมา เพื่อมอบค่าสินไหมทดแทนให้แก่ 2 ครอบครัวของผู้เสียชีวิตที่เป็นผู้ถือกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัท เมืองไทยประกันภัย ได้แก่ คุณสุริยะ ลิมป์รัชตามร ผู้ถือกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล K-Max จำนวน 2 ฉบับ โดยมอบเงินสินไหมให้แก่ทายาทตามกฎหมายเป็นจำนวนเงิน 300,000 บาทรวมถึง คุณพัชรา จันทร์เพ็ง ผู้ถือกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล K-Max จำนวน 1 ฉบับ โดยบริษัทมอบเงินสินไหมให้แก่ทายาทตามกฎหมาย เป็นจำนวนเงิน 200,000 บาท โดยกรณีของคุณพัชรา ญาติได้นำศพกลับไปทำพิธีที่จังหวัดสกลนครแล้ว คุณวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, คุณอภิชาต วาที พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครราชสีมา และคณะแพทย์ของโรงพยาบาลในจังหวัดนครราชสีมา จึงให้เกียรติเป็นตัวแทนรับมอบเงินค่าสินไหมดังกล่าว

นอกจากนี้ บริษัท เมืองไทยประกันภัย ได้มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย ที่แม้ไม่ได้เป็นลูกค้าของบริษัท แต่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ โดยบริษัทมอบเงินช่วยเหลือผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นจำนวน 200,000 บาท เพื่อสบทบเข้ากองทุนช่วยเหลือผู้ประสบเหตุเทอร์มินอล 21 โดยจังหวัดนครราชสีมาเมืองไทยประกันภัย หวังว่า เหตุการณ์นี้จะเป็นบทเรียนสำคัญของสังคม เพื่อทุกฝ่ายจะหาแนวทางปฏิบัติ และมาตรการรองรับเพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียเช่นนี้อีก แม้จะไม่มีผู้ใดคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตได้ แต่ทุกคนมีส่วนช่วยทำให้สังคมของเราดีขึ้นได้