หนุ่มอารมณ์ดี กฤตภาส กิตติวรนารถ หรือ หนุ่มแบงก์ เป็นอีกคนหนึ่งที่ชื่นชอบการทำธุรกิจ ซึ่งเขาผ่านประสบการณ์มามากมายหลายอย่าง ที่เขาประสบผลสำเร็จทุกวันนี้ เพราะได้ทำในสิ่งตนเองรัก หากเราย้อนไปในแวดวงธุรกิจยานยนต์ทุกคนคงรู้จักเขาเป็นอย่างดี ในฐานะบรรณาธิการนิตยสาร THE TRUCK และเทคนิคแต่งรถ ซึ่งเป็นหนังสือเกี่ยวกับการตกแต่งรถยนต์ ตลอดเวลาที่ทำงาน เขาทุ่มเทอย่างนัก ส่งผลให้เขาประสบผลสำเร็จในวิชาชีพสื่อสารมวลชน ซึ่งคนเล่นรถทุกคนรู้จักเขาดีในนาม แบงก์คิ้น ผู้ที่โลดแล่นในวงการยานยนต์ของไทย นับถอยหลังจากวันนั้น เป็นเวลาร่วมกว่า 11 ปี ที่เขาได้ก่อตั้งบริษัท แบงก์คิ้น ซีนอน คอนเซ็ปต์ คาร์ จำกัด ศูนย์บริการแก้ไขระบบไฟหน้ารถยนต์เฉพาะทางแห่งแรกของประเทศไทย ที่ลูกค้าไว้วางใจในแบรนด์ “แบงก์คิ้น”
หนุ่มแบงก์ เล่าที่มาของศูนย์บริการแก้ไขระบบไฟหน้ารถยนต์เฉพาะทางแห่งแรกของประเทศไทย แบรนด์ “ แบงก์คิ้น ” ว่า ในช่วงวัยเด็กตนเองใฝ่ฝันอยากมีรถยนต์เป็นของตนเอง และอยากมีร้านแต่งรถยนต์หรูๆ สักแห่ง จึงเดินตามความฝันตนเองเรื่อยมา จนกระทั่งได้มาทำงานเป็นบรรณาธิการนิตยสาร The truck ซึ่งเป็นหนังสือเกี่ยวกับการตกแต่งรถยนต์ หลังจากทำงานเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปสักพัก และควบคู่กับการสั่งสมประการณ์ด้านการแต่งไฟรถยนต์อย่างจริงจัง จนกระทั่งพ.ศ.2550 ตัดสินใจเปิดร้านแต่งไฟรถยนต์ร้านเล็กๆขึ้นมา ชื่อว่า แบงก์คิ้น ในซอยหมู่บ้านซอยหรรษา งบลงทุนประมาณ 2-3 แสนบาท
“ช่วงนั้นตนเองใช้รถยนต์ BMW และมีปัญหาเกี่ยวกับระบบไฟส่องสว่างรถไม่เพียงพอ ทำให้ไฟรถมืดมาก จึงนำหลอดไฟมาใส่รถลองดู ปรากฏว่าแก้ไขปัญหาไฟรถสำเร็จไฟสว่างขึ้น และสมัยนั้นรถยนต์ใหม่ๆ BMW มีไฟวงแหวนเป็นไฟหรี่ แต่รถเรากลับไม่มีวงแหวน ตัดสินใจนำไฟวงแหวนมาใส่รถยนต์ตนเอง ในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร และพัฒนานำวงแหวนไปใส่รถยนต์คันอื่นๆทุกรุ่น อาทิ ฟอร์จูนเนอร์ มาสด้า วิช และแอคคอร์ด เป็นต้น จนกระทั่งได้รับฉายาว่า เจ้าพ่อไฟวงแหวน และนำโคมไฟมาประกอบ นั่นคือไฟแดย์ไลท์ในปัจจุบัน”
หนุ่มแบงก์ เล่าถึงการบริการของแบรนด์ “แบงก์คิ้น” ว่า ปัจจุบันเปิดให้บริการครบวงจรออโตโมทีฟ อาทิ แก้ไขไฟหน้ารถ ออกแบบไฟรถรอบคัน ระบบเบรครถยนต์ การดูแลสีรถยนต์เคลือบแก้ว เคลือบเซรามิค นำเข้าชุดพาท ชุดแต่งรถสปอตคาร์ และซุปเปอร์คาร์ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม แบงก์คิ้น ถึงแม้จะเป็นแบรนด์เล็กๆ แต่ใส่ใจในทุกรายละเอียดทุกขั้นตอน โดยเฉพาะในเรื่องคุณภาพ ซึ่งจะต้องผ่านเกณฑ์มาตรฐานของแบงก์คิ้น เน้นการตรวจสอบคุณภาพอย่างละเอียด มีการติดตั้งได้มาตรฐาน มีห้องคลีนรูม รับประกันการตกแต่งโคม เครื่องตั้งระบบไฟผ่านการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก และการบริการที่ประทับใจ
หนุ่มแบงก์ เล่าถึงรายได้ว่า ธุรกิจของแบงก์คิ้นกำลังเติบโตขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะเรามีการสื่อสารกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยใช้สื่อทั้ง ออนไลน์ นสพ. และ นิตยสาร จึงทำให้เกิดการยอมรับในตัวแบรนด์ ส่งผลให้มีรายได้เฉลี่ย 10 ล้านบาทต่อปี แบ่งรายได้มาจากบริการหลักๆดังนี้ 1. บริการระบบไฟ 2.บริการระบบเบรค 3. บริการดูแลสีรถยนต์ และ 4. บริการอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งลูกค้าจะเป็นกลุ่มตลาดบน ช่วงอายุระหว่าง 30-45 ปี ส่วนใหญ่เป็นเจ้าของธุรกิจ หรือ คนวัยทำงาน หากกลุ่มคนเหล่านี้ ต้องการแก้ไขระบบไฟรถยนต์จะมาใช้บริการที่แบงก์คิ้นแต่เพียงแห่งเดียว เพราะเรามีจุดเด่นในเรื่องการออกแบบ การดีไซน์ รวมทั้ง เป็นผู้นำเทรนด์ใหม่ๆเข้าตลาดอย่างต่อเนื่อง
“แบรนด์แบงก์คิ้น เปิดบริการมา 11 ปี กระแสตอบรับจากผู้ใช้บริการตกแต่งไฟรถยนต์ดีมาก เพราะเรามีกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง อาทิ ออกงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับรถยนต์ จัดมิตติ้งแฟนคลับ เป็นต้น คุณภาพสินค้าที่นำมาให้บริการมีหลายเกรดให้เลือก อยู่ที่ลูกค้าเป็นคนตัดสินใจ แต่รับรองว่า ราคาคุ้มค่ากับการจ่ายแน่นอน ปีนี้ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 20 ล้านบาท ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้ มีโครงการขยายสาขา แบงก์คิ้น ออกสู่รอบๆเขตปริมณฑลของกรุงเทพมหานคร จำนวน 6-10 สาขา ให้บริการเกี่ยวกับระบบไฟรถยนต์ทั้งหมด รองรับตลาดล่าง-กลาง งบลงทุนประมาณ 20 ล้านบาท ปัจจุบันแบงก์คิ้น มี 2 สาขา คือ ตั้งอยู่ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 13 กรุงเทพมหานคร 1 แห่ง และ ในจังหวัดหนองคาย 1 แห่ง พร้อมกันนี้ กำลังนำแบงก์คิ้น เข้าสู่ระบบแฟรนไซส์ เพื่อให้บริการรถยนต์ทุกระบบทั่วประเทศ มูลค่าแฟรน์ไซส์ละ 2 ล้านบาท”
ปัจจุบันตลาดตกแต่งรถยนต์มีการแข่งขันค่อนข้างสูง ในส่วนของแบรนด์แบงก์คิ้น หนุ่มแบงก์ บอกว่า ตนเองไม่ได้ไปแข่งขันกับแบรนด์ใดๆ แต่อาศัยช่องว่างทางการตลาด ความเชี่ยวชาญที่เรามี สินค้ามีคุณภาพ ราคาที่เหมาะสม ประกอบกับตนเองเป็นคนที่คนในวงการยานยนต์รู้จักดี ทำให้มีลูกค้าติดตาม และคอยสนับสนุนอยู่ตลอดเวลา หากคุณภาพเราไม่ดีจริง คงจะไม่มีผู้มาใช้บริการมากมายขนาดนี้ ทั้งนี้ หากท่านใดสนใจแบงก์คิ้นแฟรนไซส์ ติดต่อที่ คอลเซ็นเตอร์ 086-6666437 ตลอด 24 ชั่วโมง
ที่มา : creativeecon.asia