คปภ. เร่งติดตามจ่ายค่าสินไหมประกัน

1110

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีรถยนต์เบนซ์ CLS 250 สีดำ หมายเลขทะเบียน ญฒ 513 กรุงเทพมหานคร   เฉี่ยวชนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ รวมจำนวน 3 คัน บริเวณถนนงามวงศ์วาน ขาออกมุ่งหน้าแยกแคราย ตำบลบางเขน อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2562 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 1 ราย และบาดเจ็บ จำนวน 8 คน เบื้องต้นตนได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ บูรณาการร่วมกับสำนักงาน คปภ. ภาค 7 (นครปฐม) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดนนทบุรี ติดตามและรายงานความเสียหายอย่างเร่งด่วนผ่าน Platform การรายงานข้อมูลกรณีอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์และให้ประสานความร่วมมือกับบริษัทประกันภัยที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนลงพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต รวมทั้งตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมว่าผู้เสียชีวิต 1 ราย และผู้บาดเจ็บ 8 ราย ได้มีการทำประกันชีวิตหรือประกันอุบัติเหตุประเภทอื่นๆไว้ด้วยหรือไม่ เพื่อใช้ระบบประกันภัยช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม

สำหรับ การจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต 1 ราย และผู้บาดเจ็บ 8 ราย นั้น จากการติดตามอย่างใกล้ชิดทราบว่าครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้ติดต่อกับโรงพยาบาลเพื่อนำศพของผู้เสียชีวิตกลับไปบำเพ็ญกุศลแล้ว ซึ่งสำนักงาน คปภ. จังหวัดนนทบุรี ได้อำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตดังกล่าวอย่างเต็มที่ โดยได้รับรายงานจากบริษัทประกันภัยว่าได้มีการติดต่อกับทายาทของผู้เสียชีวิตแล้ว และจะเร่งดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่ทายาทโดยธรรมของผู้ประสบภัยโดยด่วนต่อไป ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนจัดทำเอกสารประกอบการจ่ายค่าสินไหมทดแทน ในส่วนของผู้บาดเจ็บ 8 ราย ที่ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า และโรงพยาบาลนนทเวช ยังคงพักรักษาตัว 5 ราย อีก 3 รายกลับบ้านแล้ว โดย สำนักงาน คปภ. จังหวัดนนทบุรี ได้แจ้งสิทธิค่ารักษาพยาบาลของผู้ประสบภัยตาม พ.ร.บ. ให้กับผู้บาดเจ็บและโรงพยาบาลได้รับทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะได้ติดตามให้มีการจ่ายตามสิทธิดังกล่าวต่อไป

“สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ 8 ราย จากอุบัติเหตุดังกล่าว ทั้งนี้ อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาและทุกสถานที่ จึงควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยเพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัย และขอฝากเตือนประชาชน ควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะเส้นทางการจราจรที่ไม่คุ้นเคย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียที่จะเกิดขึ้นได้ และหมั่นตรวจสอบสภาพรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนตรวจวันหมดอายุกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคบังคับ (ประกันภัย พ.ร.บ.) ตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งควรทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจและประกันชีวิตอื่นๆ ด้วย เพื่อที่ระบบประกันภัย จะได้เข้ามาช่วยบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความสูญเสียต่างๆที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันภัยสามารถสอบถามได้ที่ สายด่วน คปภ. 1186”