
สมาคมเพื่อนชุมชน จับมือคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดึง 6 กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ในจังหวัดระยอง ร่วมโครงการ “สมาคมเพื่อนชุมชนธรรมศาสตร์โมเดล ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพวิสาหกิจชุมชนพื้นที่มาบตาพุดคอมแพล็กซ์ รุ่นที่ 10” ประจำปี 2568 พร้อมเป็นพี่เลี้ยงถ่ายทอด ความรู้ พัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพ เปิดมุมมองใหม่ ปรับปรุงสินค้ารับเทรนด์ตลาด สร้างรายได้ชุมชนยั่งยืน โชว์ผลงานขับเคลื่อนโครงการฯ 9 รุ่น 64 วิสาหกิจชุมชน สร้างเม็ดเงินสะสมกว่า 108 ล้านบาท หนุนเศรษฐกิจฐานราก จ.ระยอง เข้มแข็ง
นายทศพร บุณยพิพัฒน์ นายกสมาคมเพื่อนชุมชน เปิดเผยว่า ในวันนี้ สมาคมเพื่อนชุมชน ซึ่งเป็นองค์กรต้นแบบความร่วมมือของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ขยายกลุ่มการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดระยอง จับมือภาคีเครือข่าย อาทิ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น บริษัทสมาชิกสมาคมเพื่อนชุมชน หนุนวิสาหกิจชุมชน (วสช.) จังหวัดระยอง เข้าร่วม “โครงการสมาคมเพื่อนชุมชนธรรมศาสตร์โมเดลฯ รุ่นที่ 10” ปี 2568 โดยร่วมกันเป็นพี่เลี้ยง ถ่ายทอดองค์ความรู้ แบ่งปันความคิดสร้างสรรค์ นำนวัตกรรมเข้ามายกระดับมาตรฐานคุณภาพผลิตภัณฑ์ การปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ การวิเคราะห์ต้นทุน ตลอดจนพร้อมขยายและเพิ่มช่องทางการตลาด ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนในจังหวัดได้อย่างยั่งยืน

สำหรับพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือ (MoU) และพิธีส่งมอบโครงการสมาคมเพื่อนชุมชนธรรมศาสตร์โมเดลฯ รุ่นที่ 10 ปีนี้เป็นการพัฒนายกระดับศักยภาพ วสช. ซึ่งถือเป็นเศรษฐกิจฐานรากของจังหวัดระยอง ที่ผ่านมา ได้ดำเนินการไปแล้วตั้งแต่ปี 2559-2567 มีผลสัมฤทธิ์ในการพัฒนา วสช. ไปแล้วทั้งหมด 9 รุ่น รวม 64 กลุ่มวิสาหกิจ สร้างรายได้สะสมกว่า 108 ล้านบาท โดยปีนี้ มีกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเข้าร่วมจำนวน 6 กลุ่ม ประกอบด้วย
1) วิสาหกิจชุมชนชิมเพลินเนินพระ พื้นที่เทศบาลเมืองเนินพระ
2) วิสาหกิจชุมชนสวนเพียงพอดีอำเภอบ้านฉาง พื้นที่เทศบาลตำบลบ้านฉาง
3) วิสาหกิจชุมชนบ้านหนองผักหนาม พื้นที่เทศบาลตำบลมาบข่าพัฒนา
4) วิสาหกิจชุมชนขวัญจิราเครื่องประดับเงิน พื้นที่เทศบาลเมืองบ้านฉาง
5) วิสาหกิจชุมชนบ้านเมี่ยงบ้านฉาง พื้นที่เทศบาลตำบลบ้านฉาง
6) วิสาหกิจชุมชนประมงเรือเล็กเก้ายอด พื้นที่เทศบาลนครระยอง
“การขับเคลื่อนโครงการฯ ดังกล่าว เป็นหนึ่งในโครงการที่เป็นส่วนสำคัญในการสานความร่วมมือแบบบูรณาการกับทุกภาคส่วน ทำให้เกิดการต่อยอดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เกิดเครือข่ายของวิสาหกิจชุมชนที่ได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นการช่วยยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็ง ส่งผลให้คนในชุมชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สมกับเจตนารมณ์ที่ว่า “บ้านเราน่าอยู่ สังคมยั่งยืน” สืบไป” นายทศพร กล่าว

นายกำธร เวหน รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่า นับเป็นความร่วมมือของภาคสังคม ระหว่างภาครัฐ ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม และภาคอุดมศึกษา ที่ให้ความสำคัญในเรื่องการส่งเสริมเติมเต็มการพัฒนาด้านเศรษฐกิจฐานรากของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดระยอง โดยนำองค์ความรู้จากทุกภาคส่วนมาพัฒนาและยกระดับศักยภาพของวิสาหกิจชุมชน ทั้งด้านบริหารจัดการ การปรับปรุงคุณภาพสินค้า เพื่อยกระดับและศักยภาพ รวมถึงการรับรองมาตรฐานสินค้าต่างๆ พร้อมทั้งส่งเสริมด้านการตลาดเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับวิสาหกิจชุมชนอย่างต่อเนื่อง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ เอกรินทร์ ยลระบิล รองคณบดีฝ่ายกิจการองค์กรและความยั่งยืน คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า การดำเนินโครงการฯ ในครั้งนี้ สามารถเพิ่มมุมมองในการปรับปรุงสินค้าใหม่ให้สอดคล้องกับเทรนด์ตลาดปัจจุบัน โดยการประยุกต์และต่อยอดด้วยเทคโนโลยีและการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ในการเพิ่มองค์ความรู้ให้กับชุมชนในการพัฒนาศักยภาพต่างๆ แต่ยังคงรักษาภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อให้ผลิตภัณฑ์สามารถแข่งขันกับสินค้าในท้องตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ