อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ กำลังปรับตัวผ่านการนำนวัตกรรม เทคโนโลยีดิจิทัล และแนวคิด BCG (Bio-Circular-Green Economy) มาเสริมความสามารถในการแข่งขันและสร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดโลกที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน ท่ามกลางกระแสธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่กำลังเบ่งบาน ทำให้ความต้องการกลุ่มบรรจุภัณฑ์เพิ่มสูงขึ้น
จากความต้องการของผู้บริโภคที่นิยมสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ ทำให้กล่องใส่สินค้ายุคใหม่ต้องมีความแข็งแรง ทนทาน ผลไม้และอาหารบางชนิด ต้องการความสดใหม่ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ผืนผิวของกล่องจึงต้องรักษาอุณหภูมิคงที่ เครื่องดื่มบางชนิดต้องเก็บในตู้แช่เย็น แพกเกจจิ้งจึงต้องคงทนแม้อยู่ในอุณหภูมิติดลยนานวัน การตรวจสอบกระดาษที่นำมาทำบรรจุภัณฑ์จึงต้องระบุคุณภาพของผิวกระดาษได้อย่างแม่นยำ
ฝ่ายวิจัยของ SCGP ผู้ให้บริการด้านโซลูชันบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรในภูมิภาค ด้วยนวัตกรรม สินค้าและบริการที่หลากหลาย จึงคิดค้นนวัตกรรม “PRECISEPRO” ซึ่งมีโปรแกรมซอฟต์แวร์ “Versatile Image Analyzer” ระบบวิเคราะห์ภาพบนพื้นฐานสแกนเนอร์ที่ออกแบบมาเพื่อตรวจวัดคุณสมบัติต่างๆ ของพื้นผิวกระดาษ ไม่ว่าจะเป็น สิ่งสกปรกหรือความสม่ำเสมอของพื้นผิว ช่วยให้ควบคุมคุณภาพกระดาษได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นโปรแกรมวิเคราะห์รูปภาพที่ใช้ควบคู่กับเครื่องสแกนเนอร์หรือกล้องถ่ายรูป สำหรับการตรวจวัดคุณสมบัติบนพื้นผิวกระดาษและวัสดุต่างๆ ด้วยการสแกนภาพเพียงครั้งเดียว
ความโดดเด่นของเครื่องมือชนิดนี้คือสามารถตรวจจับและวัดสิ่งสกปรกบนแผ่นเยื่อกระดาษ ความไม่สม่ำเสมอของพื้นผิวเคลือบ และลักษณะสำคัญอื่น ๆ ได้แบบเรียลไทม์ ช่วยให้การประเมินคุณภาพเป็นไปอย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพสูงสุด
นอกจากนี้ ยังมีโปรแกรมวิเคราะห์การแตกตามรอยพับกระดาษ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ทั้งรอยแตกที่จะเกิดขึ้นทั้งด้านในและด้านนอก โดยสามารถจำลองคุณลักษณะเส้นทับรอยที่จะเกิดขึ้นได้ในลักษณะเดียวกับเส้นทับรอยที่เกิดขึ้นจริงในสายการผลิต จึงสามารถป้องกันความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นในกระบวนการผลิต ลดต้นทุนการสูญเสีย และช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมโดยรวม
ดร.อดิศักดิ์ วรคุณพินิจ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนานวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP กล่าวว่า PRECISEPRO เป็นนวัตกรรมที่ SCGP นำมาแสดงในงานมหกรรมทรัพย์สินทางปัญญาประจำปี พ.ศ. 2568 หรือ IP Fair 2025 ระหว่างวันที่ 15 – 17 สิงหาคม 2568 ณ ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ตัวซอฟต์แวร์จับภาพมาประยุกต์ วิเคราะห์ตัวอย่างพื้นผิว เช่น การนำมาใช้ในงานของการผลิตกล่องลูกฟูก ซึ่งเป็นกล่องบรรจุภัณฑ์ยอดนิยม เพื่อวิเคราะห์ความสม่ำเสมอของพื้นผิว สิ่งสกปรกที่เคลือบอยู่บนพื้นผิว ลดการสูญเสียในกระบวนการผลิต เป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์เรื่องความเป็นกรีน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงสามารถทดสอบรอยกดทับก่อนการผลิตจริง ด้วยการวิเคราะห์จากภาพถ่าย จึงสามารถผลิตกล่องที่มีความแข็งแรงและสม่ำเสมอ
“ด้วยกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์ในปัจจุบันมีจำนวนเพิ่มขึ้น ตามความนิยมของอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซ สายตาคนไม่สามารถตรวจสอบผืนผิวบนวัสดุได้อย่างละเอียด ทำให้เกิดการสูญเสียในกระบวนการผลิต เราจึงนำโปรแกรม Versatile Image Analyzer มาจับภาพเพื่อวิเคราะห์แทนสายตาคน ทำให้การวิเคราะห์การพิมพ์มีความคงที่ คุณภาพสม่ำเสมอ” ดร.อดิศักดิ์ กล่าว
ดร.อดิศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่าในช่วงที่ผ่านมามีเครื่องมือคล้ายๆกัน แต่ว่าของ SCGP ตอบโจทย์การประยุกต์ใช้ได้หลากหลายกว่า เนื่องจากนวัตกรรมที่นำมาพัฒนาสามารถวิเคราะห์ผิวกระดาษ ผิวผ้า หรือวัสดุต่างๆได้ ขณะที่เครื่องทั่วไปพัฒนาเฉพาะเจาะจงในพื้นผิวชนิดใดชนิดหนึ่ง
ด้าน โกสินทร์ หาชะวี นักวิจัยศูนย์พัฒนานวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ SCGP กล่าวว่า ฝ่ายวิจัยได้มีการพัฒนานวัตกรรมชิ้นนี้ตั้งแต่ 5 ปีที่ผ่านมา โดยมีงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาคุณภาพของกระดาษ ซึ่งเครื่องที่มีในปัจจุบันยังไม่ตอบโจทย์และราคานำเข้าค่อนข้างแพง ประกอบกับการวิเคราะห์ยังทำได้ไม่หลากหลาย นักวิจัยจึงมองหาว่าจะมีวิธีการไหนที่วิเคราะห์ได้ดีขึ้น รวดเร็ว และตอบโจทย์ได้ดีที่สุด เราจึงพัฒนาโปรแกรม Versatile Image Analyzer ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่สามารถวิเคราะห์คุณภาพพื้นผิวกระดาษว่าผ่านเกณฑ์หรือไม่ ก่อนนำไปใช้งานจริง เพื่อช่วยให้งานบริการด้านบรรจุภัณฑ์สำหรับลูกค้าของเราได้มาตรฐานสมบูรณ์แบบ
“การนำกระดาษไปผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์ เช่น ทำกล่องลูกฟูก ต้องมีความทนทาน แข็งแรง ตั้งแต่การขึ้นรูป ยิ่งยุคนี้เป็นยุคอีคอมเมิร์ซ มีความต้องการใช้กล่องจำนวนมาก ถ้าเราผลิตกล่องไม่ได้คุณภาพ สินค้าที่นำส่งก็จะเกิดความเสียหาย เราจึงสร้างเครื่องมือดังกล่าวสำหรับตรวจสอบพื้นผิวของกล่องที่สายตาไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามีผิวขรุขระหรือมีรอยแตกร้าวซ่อนอยู่หรือไม่ โปรแกรมดังกล่าวยังสามารถจำลองการพับ ตรงนี้ทำให้เราสามารถประเมินความเสี่ยงของกล่องก่อนจะส่งให้กับลูกค้าได้ว่าแข็งแรงขนาดไหน ซึ่งเกิดจากการคิดค้นของนักวิจัยไทย และจดสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว”
