ในยุคปัจจุบันที่สภาพภูมิอากาศผันแปรอย่างรวดเร็ว อาจนำมาสู่การสูญพันธุ์ครั้งที่ 6 ของสิ่งมีชีวิต ทุกภาคส่วนจึงต้องตื่นตัว รวมถึงภาคธุรกิจ หากตระหนักและใส่ใจเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จะเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญและช่วยให้ธุรกิจยั่งยืนได้ finbiz by ttb จึงชวนผู้ประกอบการมาทำความเข้าใจและจัดเก็บข้อมูลเพื่อจัดการคาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร ให้ธุรกิจสามารถจัดการการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างถูกต้องตรงจุด และเสริมภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งให้กับองค์กร
การสูญพันธุ์ครั้งที่ 6 สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม
โลกได้เผชิญกับการสูญพันธุ์มาแล้วถึง 5 ครั้ง ซึ่งในแต่ละครั้งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การปะทุของภูเขาไฟที่เป็นไปโดยธรรมชาติ และอีก 1 ครั้งจากการชนโลกของอุกกาบาตขนาดใหญ่ และในครั้งนี้ที่โลกกำลังเผชิญกับการสูญพันธุ์ครั้งที่ 6 ซึ่งจะมีอัตราการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตเร็วกว่าปกติถึง 100-1,000 เท่า และมีการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ของสภาพแวดล้อมเร็วกว่าการทำนายโดยสถิติที่เคยคาดการณ์ไว้ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รวดเร็วด้วยอัตราความเร่งที่สูงกว่าอดีต ซึ่งสาเหตุหลักมาจากกิจกรรมของมนุษย์ เช่น การตัดไม้ทำลายป่าและการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล ปัญหานี้ไม่ได้กระทบเฉพาะธรรมชาติ แต่ยังส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจและการดำเนินธุรกิจอย่างชัดเจน ธุรกิจจึงต้องเริ่มปรับตัวตั้งแต่วันนี้ ก่อนที่จะต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่คาดไม่ถึงและกฎระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต
พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป เมื่อความยั่งยืนของโลกคือสิ่งที่ลูกค้าต้องการ
อีกหนึ่งปัจจัยที่ธุรกิจต้องให้ความสนใจด้านสิ่งแวดล้อม คือ พฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของความยั่งยืนในธุรกิจมากขึ้น ผลสำรวจจาก Nielsen ในปี 2023 พบว่า...
ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันว่าเศรษฐกิจไทยในปี “งูเล็ก” จะเผชิญกับความท้าทายมากกว่าปี “งูใหญ่” ที่ผ่านมาหรือไม่ หากย้อนกลับไปในปี 2533 ประเทศไทยเคยมีอัตราการเติบโตของ GDP สูงสุดในภูมิภาคอาเซียนที่ 11% โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยระหว่างปี 2533 ถึง 2538 อยู่ที่ 8.7% ขณะที่อาเซียนมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยที่ 5.6% อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยเริ่มลดลงและต่ำกว่าหลายประเทศในอาเซียน โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (2557 ถึง 2566) GDP ของไทยเติบโตเพียง 1.8% ขณะที่อาเซียนมีการเติบโตมากกว่า 3.7%
ในส่วนของอัตราเงินเฟ้อรายเดือน ประเทศไทยยังคงสามารถควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่เคยมีอัตราเงินเฟ้อสูงถึง 11% นับตั้งแต่เกิดวิกฤตต้มยำกุ้งจนถึงปัจจุบัน ขณะที่ประเทศอินโดนีเซียและเวียดนามเคยเผชิญกับปัญหาเงินเฟ้อที่สูงกว่า 80% ในปี 2541 และกว่า 28% ในปี 2553 ตามลำดับ ทั้งนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2567...
ยุคนี้ถือเป็นยุคที่การค้าออนไลน์เฟื่องฟูสุดขีด ความสะดวกในการช้อปปิ้งเพียงปลายนิ้วคลิกทำให้ผู้บริโภคนิยมซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจพร้อมใจกันกระโดดเข้ามาแข่งขันในสนามนี้เพื่อช่วงชิงยอดขาย แต่ในสมรภูมิที่หมุนเร็วอย่างการค้าออนไลน์ การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นทุกขณะ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้น พฤติกรรมผู้บริโภคที่ปรับเปลี่ยนไป หรือการแข่งขันที่ดุเดือดขึ้นเรื่อย ๆ
ปี 2025 จะเป็นอีกปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการอีคอมเมิร์ซ นักธุรกิจต้องตามให้ทัน มาตามเทรนด์ที่จะเกิดขึ้นจากการวิเคราะห์ของ "ป้อม ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ” กูรูผู้บุกเบิกอีคอมเมิร์ซและธุรกิจดิจิทัลไทย และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพย์โซลูชั่น จำกัด ผู้ให้บริการระบบชำระเงินออนไลน์แห่งแรกของไทย ซึ่งจะช่วยให้ผู้ค้าออนไลน์เตรียมพร้อม ปรับตัว และไม่พลาดโอกาสในการทำธุรกิจในตลาดออนไลน์ที่ท้าทายนี้
1. “อีมาร์เก็ตเพลส” แข่งดุ ผูกขาด ยึดลูกค้าเป็นตัวประกัน
ปี 2025 ชัดเจนมากว่าอีมาร์เก็ตเพลสในไทยถูกผูกขาดเบ็ดเสร็จโดยยักษ์ใหญ่ต่างชาติเพียงไม่กี่ราย ทำให้ขึ้นค่าธรรมเนียมได้อย่างตามอำเภอใจโดยไร้การควบคุมจากภาครัฐ ยิ่งไปกว่านั้น อีมาร์เก็ตเพลสเหล่านี้ยังยึดข้อมูลลูกค้า ทำให้ผู้ค้าเข้าไม่ถึงชื่อ เบอร์โทร หรือแม้แต่ที่อยู่ของลูกค้า ต้องตกอยู่ในสถานะจำยอม ไม่สามารถนำข้อมูลลูกค้าไปทำการตลาดเอง จะย้ายฐานลูกค้าข้ามไปแพลตฟอร์มอื่นก็ทำไม่ได้
ขณะเดียวกัน การแข่งขันในตลาดอีมาร์เก็ตเพลสจะดุเดือดมากขึ้น หลายแพลตฟอร์มไม่ได้หยุดอยู่แค่การเป็นพื้นที่ขายสินค้า แต่กำลังรุกเข้าไปในธุรกิจอื่นที่ครบวงจรมากขึ้น เช่น บางแพลตฟอร์มสร้างระบบการชำระเงินของตนเอง และมีบริการขนส่งเพื่อรองรับธุรกรรมภายในระบบ อย่างกรณีของ Shopee ได้ขยายไปสู่ฟู้ดเดลิเวอรี่...
เจฟฟรีย์ ฮิววิตต์ รองประธานนักวิเคราะห์การ์ทเนอร์ กล่าวว่า "แนวโน้มต่าง ๆ เหล่านี้เปิดโอกาสให้ผู้นำ I&O สามารถระบุความต้องการด้านทักษะในอนาคตและค้นหาข้อมูลเชิงลึกเพื่อตอบโจทย์ความต้องการสำหรับการนำไปปฏิบัติใช้ โดยเทคโนโลยีเหล่านี้จะสร้างความแตกต่างที่จำเป็นสำหรับองค์กรเพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการปฏิบัติการด้าน I&O ในปี 2568"
ภาพที่ 1: เทรนด์เทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานและการปฏิบัติการสำคัญในปี 2568 โดยการ์ทเนอร์
ที่มา: การ์ทเนอร์ (ธันวาคม 2567)
เทรนด์ที่ 1: Revirtualization/devirtualization
การเปลี่ยนแปลงใบอนุญาตล่าสุดสำหรับโซลูชันในผู้ขายบางรายได้กดดันให้ทีม I&O หลายทีมต้องประเมินและพิจารณาทางเลือกด้านการทำเวอร์ชวลไลเซชันใหม่ โดยบางส่วนย้ายไปใช้พับลิกคลาวด์มากขึ้น บางส่วนหันไปใช้ดิสทริบิวเต็ดคลาวด์ และบางส่วนย้ายไปใช้ไพรเวทคลาวด์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับตัวเลือกหลายอย่างนอกเหนือจากการเปลี่ยนซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้ใช้งาน Virtual Machine หลายตัวบนอุปกรณ์เครื่องเดียว หรือที่เรียกว่า ไฮเปอร์ไวเซอร์ (Hypervisors)
"ผู้นำ I&O ต้องสำรวจการใช้งานเวอร์ชวลไลเซชันทั้งหมดในปัจจุบันรวมถึงการพึ่งพาที่เกี่ยวข้องซึ่งกันและกัน อาทิ ประเมินหนทางเลือกต่าง ๆ รวมถึงการหา Hypervisors, Hyperconvergence, Distributed Cloud, Containerization, Private Cloud และ Devirtualization...
Google Search ยังคงเป็นเครื่องมือสำคัญที่คนไทยใช้ค้นหาข้อมูล ข่าวสาร เหตุการณ์สำคัญ ความรู้ และความบันเทิง
กีฬาฟุตบอลครองใจคนไทยตลอดกาล “ฟุตบอลยูโร” ศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2024 ครองอันดับ 1 ในหมวดคำค้นหายอดนิยม
คนไทยให้ความสนใจการท่องเที่ยวประเทศจีนเพิ่มขึ้นหลังการยกเลิกวีซ่า โดย 7 ใน 10 สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศยอดนิยมมาจากประเทศจีน โดย “เซี่ยงไฮ้” ครองอันดับ 1
กรุงเทพฯ - วันพุธที่ 11 ธันวาคม 2567: Google ประเทศไทย เปิดเผยผลการค้นหายอดนิยมประจำปี 2567 หรือ “Year in Search 2024” ซึ่งสะท้อนถึงเทรนด์และพฤติกรรมการค้นหาของคนไทยตลอดปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ข่าวสารเหตุการณ์สำคัญทั้งในประเทศและต่างประเทศ การเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ สถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม บุคคลที่เป็นที่สนใจ รวมถึงกิจกรรมและกระแสที่กำลังมาแรง เช่น สูตรอาหาร คำแปล และความบันเทิงหลากหลายที่ครองใจคนไทยในปีนี้
จากคำค้นหายอดนิยมประจำปี 2567 สิ่งที่คนไทยให้ความสนใจมีดังนี้
Google Search...
เผยผลการศึกษา* การป้องกันด้วยวัคซีนไข้หวัดใหญ่ขนาดสูง ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตในผู้สูงอายุได้ถึง 48.9% และลดการนอนโรงพยาบาล 64.4%
8 จาก 10 รายของผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่คือผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป
ผู้สูงอายุเสี่ยงป่วยหนักจากไข้หวัดใหญ่มากกว่าคนวัยทำงานถึง 10 เท่า
เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้เชี่ยวชาญกว่า 400 คนจากทั่วโลกและภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ได้เข้าร่วมสัมมนาทางวิทยาศาสตร์ระดับภูมิภาคเกี่ยวกับไข้หวัดใหญ่ พร้อมแนะนำการดูแลป้องกันผู้สูงอายุจากไข้หวัดใหญ่ Protection Beyond Flu "การป้องกันที่มากกว่าไข้หวัดใหญ่"
ในการประชุมได้นำเสนอข้อมูลสำคัญในหลายประเด็น ได้แก่ ภาระโรคไข้หวัดใหญ่ในผู้ป่วยที่มีโรคร่วม ผลกระทบของไข้หวัดใหญ่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลยุทธ์การเพิ่มอัตราการรับวัคซีนในประเทศ และวิธีการประเมินวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่ดีขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าได้เลือกตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพ การอภิปรายเหล่านี้ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการรับมือกับไข้หวัดใหญ่โดยการให้การป้องกันที่มากขึ้นเพื่อลดภาระโรคและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ
ไข้หวัดใหญ่ไม่ใช่เพียงแค่หวัดธรรมดา แต่สามารถส่งผลกระทบรุนแรงต่อระบบอวัยวะสำคัญและนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น ปอดบวม หัวใจวาย และโรคหลอดเลือดสมอง จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) พบว่าในแต่ละปีทั่วโลกมีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่อาการรุนแรงประมาณ 3-5 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนรุนแรงประมาณ 290,000 - 650,000 ราย สำหรับประเทศไทย ตามข้อมูลจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ณ วันที่...
Pet Parent ยังคงเป็นกระแสนิยมในปัจจุบัน สะท้อนแนวโน้มและรูปแบบการเลี้ยงสัตว์ของคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงเสมือนคนในครอบครัว ยิ่งกว่านั้น ในโลกโซเชียลมีเดียยังยกระดับสัตว์เลี้ยงบางตัวให้กลายเป็น Pet Influencer ที่มีผู้ติดตามนับแสนคน เหล่านี้ล้วนสร้างปรากฏการณ์ใหม่ที่ไม่เพียงเปลี่ยนมุมมองการเลี้ยงสัตว์ แต่ยังส่งผลให้ตลาดสัตว์เลี้ยงและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเติบโตอย่างก้าวกระโดด ทั้งด้านอาหาร ของเล่น ของใช้ บริการด้านสุขภาพ และ อื่นๆ
บริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด ได้ทำการรวบรวมข้อมูลผ่านเครื่องมือ DXT360 เพื่อฟังเสียงในสังคมออนไลน์ (Social Listening) ในช่วงวันที่ 1 ตุลาคม – 25 พฤศจิกายน 2567 เพื่อนำมาวิเคราะห์หา insight ที่เผยให้เห็นเทรนด์ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่กำลังมาแรง โดยพบว่าบน Social Media ได้รับการพูดถึง (Mention) 185,126 ครั้ง และได้รับเอ็นเกจเมนต์ (Engagement) รวม 33,419,814 ครั้ง
ส่องธุรกิจสัตว์เลี้ยงมาแรง
กระแสการเลี้ยงสัตว์เหมือนลูก หรือ Pet Parentได้เข้ามามีอิทธิพลต่อการเติบโตของธุรกิจสัตว์เลี้ยงอย่างชัดเจน...
เมื่อฤดูกาลท่องเที่ยวเริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นและนักเดินทางต่างชาติเตรียมตัวเดินทางเข้าสู่ประเทศไทย วีซ่า ผู้นำการให้บริการการชำระเงินดิจิทัลระดับโลก ได้เผยถึงเทรนด์การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่น่าสนใจในครึ่งปีแรกของปี 2567 ซึ่งจากการวิเคราะห์ข้อมูลการใช้จ่ายผ่านบัตรวีซ่าที่ออกโดยสถาบันการเงินในต่างประเทศ ณ ร้านค้าในประเทศไทย ของวีซ่า พบว่า นักเดินทางต่างชาติที่มาเยือนประเทศไทยและมียอดการใช้จ่ายมากที่สุดคือ สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ สาธารณรัฐประชาชนจีน สหราชอาณาจักร และญี่ปุ่น ตามลำดับ
การวิเคราะห์เชิงลึกของข้อมูลการใช้จ่ายในร้านค้าของนักท่องเที่ยวจากประเทศห้าอันดับแรกเหล่านั้น เผยให้ทราบว่าการใช้จ่ายหลักอยู่ในหมวดหมู่โรงแรมที่พัก สินค้าค้าปลีก ร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้าและเครื่องประดับ และกิจกรรมด้านสุขภาพ
นายปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “การวิเคราะห์ข้อมูลการใช้จ่ายเหล่านี้ทำให้เราทราบถึงข้อมูลเชิงลึกถึงพฤติกรรมการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และช่วยให้เราวางแผนสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าเพื่อเพิ่มการใช้จ่ายในประเทศ และส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน ยกตัวอย่าง นักท่องเที่ยวจากสหรัฐอเมริกาจัดสรรเงินมากกว่าหนึ่งในสี่ของค่าใช้จ่ายของพวกเขาไว้เป็นค่าที่พัก และเป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับด้านสุขภาพอีกกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ ข้อมูลเชิงลึกนี้จะช่วยให้พันธมิตรของเราและผู้ประกอบการในประเทศให้สามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ในอนาคต”
การชอปปิงเป็นเรื่องที่นักท่องเที่ยวชาวจีนและสิงคโปร์ให้ความสำคัญ โดยค่าใช้จ่ายด้านสินค้าค้าปลีกคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 25% และ 18% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดของนักท่องเที่ยวจากทั้งสองประเทศ ตามลำดับ
นักเดินทางชาวญี่ปุ่น ถือได้ว่าให้ความสำคัญกับการรับประทานอาหารมากกว่านักเดินทางชาติอื่น โดยมีค่าใช้จ่ายที่ร้านอาหารถึง 22% ในขณะที่นักเดินทางจากสหราชอาณาจักรให้ความสำคัญกับค่าใช้จ่ายด้านที่พักมากถึง 37% ของยอดใช้จ่ายทั้งหมด
จากการวิเคราะห์ของวีซ่า ยังพบว่า...
การใช้พลังงานของ GenAI ที่เติบโตอย่างรวดเร็วจะเกินกำลังการผลิตของผู้ให้บริการสาธารณูปโภค
การ์ทเนอร์ระบุ AI และ Generative AI (GenAI) กำลังผลักดันการใช้พลังงานไฟฟ้าให้พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยคาดการณ์ว่าในอีกสองปีข้างหน้าตลาดดาต้าเซ็นเตอร์อาจเติบโตสูงถึง 160% และในปี 2570 AI ดาต้าเซ็นเตอร์ถึง 40% จะประสบกับการถูกจำกัดประสิทธิภาพการดำเนินงานเนื่องจากขีดจำกัดด้านพลังงาน
บ็อบ จอห์นสัน รองประธานนักวิเคราะห์ของการ์ทเนอร์ กล่าวว่า "การเติบโตอย่างรวดเร็วของดาต้าเซ็นเตอร์ระดับไฮเปอร์สเกลใหม่ ๆ เพื่อรองรับ GenAI ทำให้เกิดความต้องการการใช้พลังงานอย่างไม่มีที่สิ้นสุดและนำไปสู่การถึงขีดจำกัดของความสามารถในการขยายกำลังการผลิตของผู้ให้บริการสาธารณูปโภค ส่งผลให้เกิดปัญหาพลังงานไม่เพียงพอและจำกัดการเติบโตของดาต้าเซ็นเตอร์ใหม่ ๆ ที่รองรับ GenAI รวมถึงการใช้งานอื่น ๆ ตั้งแต่ปี 2569"
การ์ทเนอร์ประเมินว่า ในปี 2570 ปริมาณพลังงานที่ดาต้าเซ็นเตอร์ต้องใช้เพื่อขับเคลื่อนเซิร์ฟเวอร์ที่เพิ่มขึ้นและปรับแต่งสำหรับ AI จะทะยานไปถึง 500 เทราวัตต์ต่อชั่วโมง (TWh) ต่อปี ซึ่งมากกว่าปี 2566 ถึง 2.6 เท่า
รูปที่ 1: คาดการณ์ปริมาณการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นใน...
ปี 2024 เป็นปีที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง ผู้ประกอบการ SME ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายและโอกาสในปี 2025 ไม่ว่าจะเป็นการปรับตัวกับการทำงานที่เปลี่ยนไป เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า หรือการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงาน finbiz by ttb จะพาผู้ประกอบการ SME มาดู 5 เทรนด์ธุรกิจที่จะส่งผลต่อการเติบโตในปี 2025 นี้
1. “Pet Parent” เทรนด์สัตว์เลี้ยง
ในปี 2025 สัตว์เลี้ยงจะยังคงเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกในครอบครัว จะเห็นการเพิ่มขึ้นของความต้องการบริการเกี่ยวกับสุขภาพสัตว์เลี้ยง สินค้าพรีเมียม และการดูแลแบบเฉพาะทาง เช่น บริการตรวจสุขภาพประจำปีสัตว์เลี้ยง พร้อมให้คำปรึกษา ซึ่งการให้คำปรึกษาด้านการเลี้ยงสัตว์ออนไลน์ก็อยู่ในความสนใจ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และอุปกรณ์ติดตามสุขภาพสัตว์เลี้ยง
แนวทางธุรกิจ
พัฒนาผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงที่เน้นคุณภาพสูง เช่น อาหารเพื่อสุขภาพ หรือบริการพรีเมียม
นำเทคโนโลยี เช่น แอปติดตามสุขภาพสัตว์เลี้ยง มาเพิ่มคุณค่าและประสบการณ์ลูกค้า
จัดสรรโซนรองรับสัตว์เลี้ยงในสถานที่บริการต่าง ๆ พร้อมมาตรฐานความสะอาดที่ชัดเจน
การสร้างระดับมาตรฐานเดียวกัน เพื่อวัดความสะอาดให้กับกลุ่มธุรกิจบริการที่ Pet-Friendly
ธุรกิจประกันสำหรับสัตว์เลี้ยง ต้องหาวิธีระบุเลขทะเบียนสัตว์เลี้ยงที่เป็นมาตรฐาน เพื่อให้ประวัติการรักษาของสัตว์เลี้ยงมีฐานข้อมูลเดียวกัน
เทคโนโลยีประเภท Robot ที่มี...