ทิศทางการพัฒนาและยกระดับประเทศ ภายใต้นโยบาย Thailand 4.0 กำลังถูกผลักดันและขับเคลื่อนอย่างจริงจัง หนักหน่วง โดยวางหมุดหมายภายในระยะเวลา 20 ปีข้างหน้า ไทยจะต้องหลุดพ้นจากกับดักการมีรายได้ต่ำ ไปสู่รายได้ปานกลาง และระดับสูงในที่สุด อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านนับแต่นี้ไป คนไทยเราต้องปรับเปลี่ยน เรียนรู้ และรับมือกับคลื่นลูกที่ 4 นี้กันแบบไหนดี?
เพราะต้องยอมรับว่าศตวรรษที่ 21 นี้เป็นยุคแห่งโลกดิจิทัลอย่างแท้จริง โดยมีเศรษฐกิจดิจิทัล หรือกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีเทคโนโลยีสารสนเทศหรืออินเตอร์เน็ตเป็นตัวผลักดันประสิทธิภาพของโครงสร้างเศรษฐกิจ และมีเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่เป็นตัวขับเคลื่อน ตลอดจนการใช้ข้อมูลสารสนเทศแบบดิจิตอลเป็นปัจจัยการผลิตที่สำคัญ
ไม่เฉพาะแค่ภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจ สินค้าหรือบริการต่างๆเท่านั้น ที่จะต้องปรับตัว ใช้นวัตกรรมหรือความคิดสร้างสรรค์เป็นตัวนำ เพื่อเพิ่มมูลค่าและคุณค่า แต่ในระดับตัวบุคคลก็จำเป็นต้องปรับกระบวนทัศน์ วิถีชีวิต ให้สอดคล้องกับยุคสมัยเช่นกัน
แล้วคุณลักษณะของคนไทย 4.0 นั้นเป็นเช่นไร? ซึ่งแนวทางการปรับเปลี่ยนจะครอบคลุมใน 4 มิติ คือ 1) คนไทยจะต้องปรับไลฟ์สไตล์แบบ Thai-Thai เป็นแบบ Global Thai มีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย แต่มีกรอบความคิดเป็นสากล เพราะโลกกำลังเปลี่ยนจาก One...
เมื่อ ‘เกม’ กลายเป็นหนึ่งเครื่องมือในระบบการศึกษาสมัยใหม่ รัฐ-เอกชน-แรงงาน-การศึกษา จึงต้องระดมสมอง กำหนดทิศทางระบบการศึกษาแห่งอนาคตด้วยดิจิทัล
นายวิทยา มิตรศรัทธา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเนซิส มีเดียคอม จำกัด ผู้จัดงานเสวนา “การศึกษาในศตวรรษที่ 21 ด้วยระบบดิจิทัล : สร้างคน สร้างชาติ เพื่อศักยภาพไทยสู่สากล” กล่าวว่า แนวคิดระบบการศึกษาใหม่ (Modern Education) มีความยืดหยุ่นสูง ไม่ยึดรูปแบบ เน้นผลลัพธ์ความสำเร็จของผู้เรียนเป็นเกณฑ์ มีการนำทฤษฎีการเล่นมาใช้ เพราะเด็กๆชอบเล่น จึงต้องนำเรื่องเรียนไปใส่ในการเล่น เช่น การใช้ระบบเกมการศึกษา เกมเพื่อการเรียนรู้ (Game Based Learning and Gamification) หรือการสร้างเกมการศึกษาเพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างง่าย ประหยัดและสะดวก มีความสนุกสนาน ทำให้ผู้เรียนสามารถรับความรู้ได้เร็วและจดจำได้ดี ที่ผ่านมาบริษัทเจเนซิสฯได้มีการพัฒนาแอปพลิเคชั่นชื่อ ควิซบุ๊ก (QuizBook) เป็นแอปพลิเคชั่นที่ช่วยส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ผ่านการถามและตอบ เป็นความรู้รอบตัวต่างๆ เช่น ความรู้ทางวิชาการและนอกวิชาการ...
เวลานี้ละครเรื่อง “บุพเพสันนิวาส” นั้น ดังยิ่งกว่าพลุแตก ตัวละครเอก ภาษาไทยโบราณ เป็นที่พูดถึงและนำมาใช้กันในวงกว้าง การตามรอยละครไปยังกรุงเก่า แล้วสวมชุดไทยเที่ยวชมวัด วัง โบราณสถาน บริเวณโดยรอบอุทยานประวัติศาสตร์ยังคงเป็นไปอย่างคึกคัก ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ย่อมส่งผลดีต่อผู้ประกอบการหลากหลายประเภท ไม่เฉพาะแค่โรงแรม รีสอร์ต ร้านอาหาร ร้านโรตี ของที่ระลึกท้องถิ่นเท่านั้น แต่กลุ่มธุรกิจหนังสือ ชุดไทย ทัวร์ท่องเที่ยว สมุนไพรไทย รวมไปถึงผู้จัดงานเทศกาลสงกรานต์ปี 61 ในหลายพื้นที่ ก็น่าจะได้อานิสงส์กับกระแสฮอตฮิตนี้อยู่ไม่น้อย
เหตุที่ละครเรื่องนี้โด่งดัง เพราะมีหลายปัจจัยสนับสนุน บทประพันธ์ดี งานโปรดักชั่นเด่น พระนางเล่นโดน ฯลฯ ที่สำคัญคือการนำเสนอเรื่องราว ภาษาที่นำมาใช้ในยุคกรุงศรีฯเข้ากับยุคปัจจุบันได้อย่างร่วมสมัย แถมยังแทรกสาระความเป็นไทย ทั้งเรื่องประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม จารีตประเพณี และอาหารการกิน ไว้แทบทุกบทตอน
ประกอบกับ ช่วงเวลาที่ละครเริ่มออกอากาศเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ผู้คนจากทั่วสารทิศที่เดินทางมาเที่ยวชมงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” ยังคงอินอยู่กับบรรยากาศย้อนยุค เมื่อเจอละครพีเรียดแนวนี้เข้าไปอีก จึงโดนใจเข้าอย่างจัง เรียกได้ว่าละครปัง ส่วนหนึ่งก็เพราะมาแบบถูกจังหวะพอดิบพอดี
ที่ต้องให้เครดิตมากสุด...
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า Line ได้เข้ามามีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตคนไทยมากขึ้นตามลำดับ จากจำนวนผู้ใช้งานในหลากหลายกิจกรรมกว่า 41 ล้านบัญชี ทั้งเพื่อการสนทนา ตกแต่งภาพถ่าย เล่นเกมส์ สั่งอาหาร อ่านข่าว ดูหนัง ฟังเพลง ชอปปิ้ง ทำธุรกรรมทางการเงิน ไปจนถึงการนำเสนอขายสินค้า ผ่านบริการของไลน์ B612, Line Mobile, Line Man, Line Today, Line TV, Rabbit Line Pay, Line@ ฯลฯ เรียกได้ว่าแทบทุกธุรกิจดิจิทัลไลฟ์ Line ได้เข้าไปยึดหัวหาด จนกลายเป็นผู้นำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมีแนวโน้มว่าการรุกคืบขยายแพลตฟอร์มเข้าไปยังธุรกิจอื่นๆ ยังจะตามมาอีกหลายระลอก
พัฒนาการแอพฯสนทนาไลน์
รับรู้กันทั่วไปว่า Line นั้น เป็นสตาร์ทอัพสัญชาติเกาหลีใต้ แต่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ญี่ปุ่น จุดกำเนิดของแอพพลิเคชั่นไลน์เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์สึนามิถาโถมเข้าบริเวณแนวชายฝั่งเมืองเซนได ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงต้นเดือนมีนาคม ปี 2554 ภัยพิบัติครั้งร้ายแรงสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของชาวเมืองมหาศาล โรงไฟฟ้า สถานที่ราชการ...
‘ร้านเสริมสวย’ เป็นธุรกิจที่อยู่คู่ชุมชนมาช้านาน เป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก ที่มีการลงทุนด้วยจำนวนเงินไม่สูงมาก เป็นธุรกิจเงินสด มีรายได้ทุกวัน ต้นทุนส่วนใหญ่จะเป็นการขายฝีมือมากกว่าการลงทุนด้านวัตถุดิบ ต่างจากอาชีพอื่นที่ต้นทุนมักมาจากวัตถุดิบมากกว่าการใช้ฝีมือ และสามารถสร้างกำไรที่เป็นกอบเป็นกำให้แก่ผู้ประกอบการ ซึ่งหากมองถึงโอกาสในการเติบโตตลาดธุรกิจร้านเสริมสวยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี เนื่องจากธุรกิจมีลักษณะแบบอาชีพอิสระที่ช่วยให้คนไทยทุกฐานะอาชีพมีสิทธิเลือกที่จะเป็นเจ้าของกิจการได้ แต่ภายใต้ความมีอิสระ ก็ต้องใช้ความพยายามและหาแนวทางในการทำธุรกิจร้านเสริมสวยให้ประสบความสำเร็จ เนื่องจากร้านเสริมสวยเป็นธุรกิจที่มีอัตราการแข่งขันกันค่อนข้างสูง
ประกอบกับอาชีพเสริมสวย เป็นหนึ่งหลักสูตรที่เปิดสอนในวิทยาลัยสารพัดช่าง ซึ่งเป็นสถาบันที่สอนทุกอย่างเกี่ยวกับช่าง ทั้งช่างในสายอุตสาหกรรม อาทิ ช่างซ่อมรถยนต์ ช่างไฟฟ้า รวมถึงวิชาการประกอบอาชีพทั่วไป เช่น เสริมสวย, เสื้อผ้า, ตัดผม, ทำอาหาร ขนม เป็นต้น เน้นวิชาชีพที่เป็นความต้องการของชุมชน เป็นหลักสูตรระยะสั้น 150-225 ชั่วโมง ถือเป็นสถาบันอาชีวศึกษาที่ตอบโจทย์ความต้องการทุกอย่างของผู้เรียน อยากเรียนอะไรจะได้ในสิ่งนั้นกลับไป ไม่เน้นทฤษฎี ปฏิบัติล้วนๆ เข้ามาอยากเป็นช่างซ่อมรถ ซ่อมเลย อยากเป็นช่างตัดผม ตัดเลย บางคนมาเรียนวันแรกทำเป็นเลยก็มี และสามารถออกไปประกอบวิชาชีพได้เลย ยกตัวอย่าง เรียนตัดผมพื้นฐานเป็นแล้ว ออกไปประกอบอาชีพก่อน พอทำไปสักระยะอยากเรียนการจัดแต่งทรงผม โกรกสี ย้อมสี ฯลฯ...
“ตลาด” ผูกพันกับคนไทยเรามาช้านาน เพราะความสำคัญของตลาดนั้นมีมากมายหลายมิติ ครอบคลุมทั้งเรื่องประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม เศรษฐกิจ สังคม ชุมชน การท่องเที่ยว ไปจนถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยี ด้วยเหตุนี้ ตลาดจึงเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตเราชนิดแยกขาดจากกันไม่ได้
สมัยสุโขทัย-อยุธยา เรียกตลาดว่า “ป่า”
หลักฐานทางประวัติศาสตร์สมัยสุโขทัย ปรากฏข้อความในจารึกว่า “เบื้องตีนนอนสุโขทัยนี้ มีตลาดปสาน มีพระอจนะ มีปราสาท มีป่าหมากพร้าว มีป่าหมากลาง มีไร่นา มีถิ่นฐาน มีบ้านใหญ่บ้านเล็ก”
ในสมัยกรุงศรีอยุธยาก็ยังเรียกตลาดว่าป่า เช่น ป่าตะกั่ว ขายลูกแหและสิ่งที่ทำมาจากตะกั่ว ป่าผ้าไหม ขายผ้าไหม ป่าสังคโลก ขายถ้วยชามสังคโลก ป่าฟูก ขายที่นอนหมอนมุ้ง ป่ามะพร้าว ก็ขายมะพร้าว เป็นต้น สะท้อนให้เห็นว่าตลาดอยู่คู่กับคนไทยมานานหลายร้อยปีแล้ว
ต่อมาในยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์มีการขุดคูคลองรอบพระนครหลายแห่ง ทางหนึ่งเพื่อป้องกันภัยจากผู้รุกราน อีกทางก็เพื่อใช้เป็นเส้นทางสัญจรไปมาหาสู่และการค้าขาย จนกลายเป็น “ตลาดน้ำ” แหล่งซื้อขาย แลกเปลี่ยนสินค้าสำคัญๆหลายพื้นที่ เช่น ย่านบางประกอก ท่าเตียน คลองมหานาค...
รัฐอัสสัม เป็น 1 ใน 7 รัฐสำคัญที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอินเดีย ติดกับเมียนมา ซึ่งรัฐอัสสัมนี้มีความผูกพันกับคนไทยมาก คนรุ่นเก่าในเมืองนี้บางคนยังพูดภาษาไทยได้ เพราะพ่อแม่สอนให้พูดภาษาไทย เหตุผลที่คนในรัฐนี้มีความผูกพันกับคนไทยเนื่องจากกลุ่มคนกลุ่มแรกที่เข้ามาบุกเบิกก่อตั้งรัฐนี้ก็คือกลุ่มชาวไทยอาหม ซึ่งอพยพไปจากทางตอนเหนือของเมียนมา และ เสือ กา ฟ้า หรือ สุ กา ฟ้า เป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับการสถาปนาเป็นกษัตริย์ปกครองเมืองนี้
ธราดล ทองเรือง ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เมืองนิวเดลี ประเทศอินเดีย แนะนำว่าถ้านักธุรกิจไทยสนค้าทำการค้ากับอินเดีย นี่คือหนึ่งในรัฐที่น่าทำการค้าด้วยอย่างยิ่ง (คลิป)
ที่มา : creativeecon.asia
ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจที่โหมกระหน่ำอย่างต่อเนื่อง แต่กิจการเครื่องหนังแบรนด์ ‘LAMBS’ ผู้ผลิตกระเป๋าสุภาพสตรี สุภาพบุรุษ กระเป๋าสตางค์ เข็มขัดบุรุษ ยังคงยืนหยัดอยู่ได้ แม้จะมีซวนเซบ้างเป็นระยะ แต่ลูกค้ายังเหนียวแน่น จุดขายคืออะไร วิชัย ชีวัฒนารมย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิชัย เลเธอร์ ฟอร์ เอ็กซปอร์ต จำกัด เล่ากลยุทธ์การทำธุรกิจให้ฟัง
ปัจจัยที่ 1 การตลาดคือหัวใจ
การตลาดเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากเราไม่ได้แข่งขันเฉพาะในเมืองไทย แต่แข่งขันกับต่างประเทศ ยิ่งเมื่อเป็นเออีซี สินค้าจากจีนจะทะลักเข้ามาจำนวนมาก คุณจะแข่งขันอย่างไร เราต้องมีเอกลักษณ์และมาตรฐานของตัวเอง เมื่อสินค้าจากเมืองจีนเน้นปริมาณ เราก็ต้องหนี ทำสินค้ามีคุณภาพ ราคายุติธรรม อย่าหวังแต่เรื่องกำไร
ปัจจัยที่ 2 คุณภาพต้องมาก่อน
ธุรกิจที่จะประสบความสำเร็จและยิ่งใหญ่ได้ต้องใช้เวลาในการสร้าง กว่า ‘แลมบ์’ จะมาถึงวันนี้ ต้องสั่งสมชื่อเสียงนานนับสิบปี ใช้ความประณีตในการเย็บ เอกลักษณ์คือการโชว์ด้ายขาว ซึ่งจะเห็นชัดเลยว่าเย็บดีหรือไม่ ฝีจักรพวกนี้ไม่ง่าย เพราะหนังมีความเหนียว ถ้าเย็บพลาดก็จะมีรู เนื่องจากด้ายเบอร์ 8 คือด้ายเบอร์ใหญ่...
เยาวราช หรือ China Town ของไทยเราที่ชาวต่างชาติมักคุ้นกัน ยังคงเปี่ยมด้วยสีสันและมนต์เสน่ห์ไม่เสื่อมคลาย ยิ่งกับช่วงเวลาสำคัญ เทศกาลตรุษจีน ด้วยแล้ว สถานที่แห่งนี้จึงดูคึกคัก คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากเป็นพิเศษ
เยาวราช มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เป็นย่านชุมชนชาวจีนโพ้นทะเลดั้งเดิมที่เข้ามาตั้งรกราก นับแต่การย้ายราชธานีมาเป็นกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อกว่า 200 ปี ดังที่รับรู้กัน
วิถีชีวิตของลูกหลานไทยเชื้อสายจีนที่เยาวราช แม้จะปรับเปลี่ยนไปบ้างตามยุคสมัย แต่กลิ่นอายทางศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ภาษา และความเป็นศูนย์กลางทางการค้า ของภาพจำในวันวาน ยังคงหลงเหลืออยู่ ไม่เลือนหายไปกับกาลเวลาเสียทั้งหมด
ในอดีตกุลีชาวจีนที่ต้องการส่งเงินกลับจีนแผ่นดินใหญ่ ก็จะมาไหว้วานผู้คนในย่านนี้ ซึ่งจะมี “โพยก๊วน” คอยให้บริการรับส่งเงินตรา แต่ทุกวันนี้สองฟากฝั่งถนนก็จะถูกทดแทนด้วยสาขาของแทบทุกธนาคาร เข้ามาเป็นผู้อำนวยความสะดวก
สถานที่พักค้างอ้างแรมแบบชั่วคราวหรือค้างคืน ประเภทกิจการโรงเตี๊ยมหรือโรงน้ำชา ตามตรอกซอกซอยบนถนนเยาวราช เจริญกรุง ทรงวาด ฯลฯ อันเป็นพื้นที่ผ่อนคลายของบรรดาเสี่ยน้อย เสี่ยใหญ่ ที่พบเห็นได้ทั่วไปในสมัยก่อน ก็ถูกแปรสภาพเป็นร้านค้า หรือไม่ก็โรงแรมขนาดเล็ก กลาง ใหญ่สมัยใหม่ ไปแทบจะหมดสิ้น
มิพักยัง ต้องพูดถึงกิจการ โรงภาพยนตร์หรือโรงหนัง ที่เคยเป็นโรงมหรสพพื้นฐานของชาวเยาวราชนั้น...
หากเอ่ยนาม ‘โอ๊ยเกี้ย’ หลายคนต้องงงๆว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ โอ๊ยเกี้ยคนนี้มีความรู้เพียงแค่ ป.4 เคยเป็นกระเป๋ารถสองแถว ‘กรุงเทพฯ-อุดรธานี’ แต่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าของธุรกิจแสนล้านได้อย่างน่าอัศจรรย์ ด้วยคำสอนของคุณแม่ที่ปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กว่า “ในโลกนี้นาฬิกาบอกเวลาเท่ากัน คือหนึ่งวันมี 24 ชั่วโมง แต่หากมนุษย์ใช้เวลาในแต่ละวันไปอย่างไม่เกิดประโยชน์ เมื่อล่วงเลยไปเวลานั้นก็ไม่สามารถเอากลับคืนมาได้ เพราะฉะนั้นให้ลูกๆจำไว้ว่าวันหนึ่งมี 24 ชั่วโมง ให้คิดเรื่องการทำมาหากิน เรื่องงานสำคัญให้ได้วันละ 18 ชั่วโมง ส่วนที่เหลืออีก 5-6 ชั่วโมงคือการพักผ่อน นับว่าเพียงพอแล้ว คนส่วนใหญ่ทำงานวันละ 8 ชั่วโมง แต่ถ้าเราทำงานได้ถึง 18 ชั่วโมงต่อวัน วันหนึ่งเราจะได้เวลาที่เกินมาอีก 10 ชั่วโมง ถือว่าเราทำงานได้อีก 1 เท่าตัวของคนอื่น”
ด้วยคำสอนดังกล่าวทำให้โอ๊ยเกี้ย หรือ เด็กชายโอ๊ยทำงานทุกอย่างโดยไม่เกี่ยงว่างานนั้นจะเป็นงานอะไร หนักหนาแค่ไหน แม้กระทั่งการเป็นกระเป๋ารถสองแถว เพราะต้องการเรียนรู้วิธีการขับรถรับ-ส่ง จนวันหนึ่งมีโอกาสดาวน์รถกระบะเป็นของตัวเอง ก็นำรถนั้นมารับจ้างพาพ่อค้าแม่ค้าจากสะพานใหม่ ดอนเมือง รังสิต...