ในยุคที่เทคโนโลยีกำลังก้าวหน้า การแข่งขันทางธุรกิจในทุกวงการก็ยิ่งเข้มข้น องค์กรที่สุขภาพดีจากภายในจะเป็นองค์กรที่ได้เปรียบ finbiz by ttb ขอแบ่งปันประสบการณ์การบริหารงานจากโรงพยาบาลรัฐขนาดใหญ่ในประเทศไทยแห่งหนึ่ง ที่ได้นำหลักการ LEAN หรือ การบริหารจัดการการผลิตหรือองค์กรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยการขจัดความสิ้นเปลืองและสูญเปล่าของทุกกิจกรรมที่ไม่ก่อให้เกิดมูลค่า เพื่อให้ต้นทุนต่ำลง มาปรับใช้ในองค์กร ซึ่งพบว่าช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและลดความสูญเปล่าได้อย่างมีนัยสำคัญ ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้กับทุกองค์กร
องค์กรทำไมต้อง LEAN
Learn, Unlearn และ Relearn “ลืมความรู้เดิม เติมความรู้ใหม่” คำพูดอมตะของ Jack Welch ซีอีโอของ General Electric ที่กล่าวว่า “เมื่ออัตราการเปลี่ยนแปลงของโลกภายนอกเร็วกว่าอัตราการเรียนรู้ของคนในองค์กร จุดจบขององค์กรได้เริ่มต้นแล้ว” ดังนั้น คนในศตวรรษที่ 21 ต้อง ลืมความรู้เดิม เติมความรู้ใหม่ รับรู้เสมอว่าสิ่งที่พาเรามายืน ณ จุดนี้ อาจไม่ใช่สิ่งที่จะพาเราไปข้างหน้าได้
ความท้าทายที่มากขึ้น การปรับตัวเพื่อรองรับความท้าทายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เช่น การเปลี่ยนแปลงของประชากร หรือ ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเป็นประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่ชราลงเรื่อย ๆ...
การ์ทเนอร์คาดการณ์ ภายในสิ้นปี 2568 โปรเจกต์ต่าง ๆ จาก Generative AI (GenAI) อย่างน้อย 30% จะยกเลิกหลังการพิสูจน์เชิงแนวคิด หรือ Proof of Concept (PoC) อันเนื่องมาจากข้อมูลคุณภาพต่ำ มีการควบคุมความเสี่ยงไม่เพียงพอ ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น หรือมูลค่าทางธุรกิจไม่ชัดเจน
ริต้า ซาลลัม รองประธานฝ่ายวิจัยการ์ทเนอร์ กล่าวว่า “หลังจาก GenAI เป็นกระแสฮือฮาเมื่อปีก่อน ผู้บริหารต่างจดจ้องที่จะได้เห็นผลตอบแทนจากการลงทุนใน GenAI แต่ว่าองค์กรต่าง ๆ กลับต้องฝ่าฟันเพื่อพิสูจน์และรับรู้ถึงคุณค่าของมัน ตามที่ขอบเขตของแผนงานด้าน GenAI ขยายออกไป ประกอบกับภาระทางการเงินในการพัฒนาและการนำโมเดล GenAI ไปใช้งานก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
โดยการ์ทเนอร์ยังระบุว่าความท้าทายสำคัญที่องค์กรเผชิญนั้น คือ การพิสูจน์ให้เห็นถึงความคุ้มค่าของการลงทุนเป็นจำนวนมหาศาลกับ GenAI ในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งจะแปลงเป็นผลประโยชน์ทางการเงินโดยตรงได้ยาก ทั้งนี้องค์กรมากมายกำลังใช้ประโยชน์จาก GenAI เพื่อเปลี่ยนแปลงโมเดลธุรกิจและสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ แต่อย่างไรก็ตาม...
วิกฤต CrowdStrike สั่นสะเทือนโลกไอที โซเชียลระอุ! แห่แชร์ผลกระทบรวมถึงจอฟ้ามรณะ ดันเอ็นเกจเมนต์พุ่งเกือบ 6 แสนครั้ง พร้อมเผยกลยุทธ์ Real-time Marketing สุดสร้างสรรค์ที่บรรดาแบรนด์และชาวเน็ตโดดร่วมวงฉวยโอกาสจากวิกฤตทำ Real-time Content เพิ่มเอ็นเกจเมนต์ให้แบรนด์
CrowdStrike บริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ชั้นนำ กลายมาเป็นกระแสให้คนทั่วโลกพูดถึงจนขึ้นเทรนด์เอ็กซ์ระดับโลกในวันที่ 19 กรกฎาคม 2567 หลังการอัปเดตซอฟแวร์ใหม่โดยส่งผลกระทบต่อกลุ่มผู้ใช้คอมพิวเตอร์ระบบปฏิบัติการ Windows กว่า 8.5 ล้านเครื่องทั่วโลกเกิด "จอฟ้ามรณะ" หรือ "Blue Screen of Death" ทำให้ใช้งานไม่ได้ ผลกระทบลุกลามสู่ธุรกิจสำคัญ ทั้งสายการบิน ธนาคาร และโรงพยาบาล ต้องหยุดให้บริการชั่วคราว
บริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด ได้ทำการรวบรวมข้อมูลผ่านเครื่องมือ DXT360 เพื่อฟังเสียงในสังคมออนไลน์ (Social Listening) ในช่วงวันที่ 19-24 กรกฎาคม 2567 พบว่ามีการพูดถึง...
นายนพพล เบี้ยวไข่มุข ผู้จัดการกองทุนประกันชีวิต นำทีมบุคลากรกองทุนประกันชีวิตเข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาปลูกป่าชายเลน เนื่องในวันประกันชีวิตแห่งชาติ ครั้งที่ 23 (พ.ศ.2567) เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2567 ณ กองสถานพักผ่อน กรมพลาธิการทหารบก สถานตากอากาศบางปู จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งกิจกรรมนี้จัดขึ้นด้วยความร่วมมือจาก 4 หน่วยงานหลักในธุรกิจประกันชีวิต ประกอบด้วย สมาคมประกันชีวิตไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมธุรกิจประกันภัย (คปภ.) สมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน และกองทุนประกันชีวิต โดยกิจกรรมดังกล่าวถือเป็นการร่วมกันช่วยรักษาระบบนิเวศน์ชายฝั่ง และสิ่งแวดล้อม เสริมสร้างความสามัคคีของบุคลากรในธุรกิจประกันชีวิต อีกทั้งเป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์แก่ธุรกิจประกันชีวิตให้ประชาชนทั่วไปเกิดความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อธุรกิจประกันชีวิตมากยิ่งขึ้น
ในยุคปัจจุบัน หลากหลายอุตสาหกรรมเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการผลักดันและพัฒนาองค์กรให้เป็น “อุตสาหกรรม 4.0” วันนี้ OPEN-TEC ศูนย์รวมองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี (Tech Knowledge Sharing Platform) ภายใต้การดูแลของ TCC TECHNOLOGY GROUP จะมาชวนทุกคนร่วมไขคำตอบถึงความสำคัญ ประโยชน์ และการรับมือเตรียมความพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่การเป็นอุตสาหกรรม 4.0 ไปด้วยกัน โดยมีรายละเอียดดังนี้
ก่อนจะก้าวเข้าสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0
เรามาร่วมสำรวจไปพร้อมกันว่าระหว่างทางก่อนจะเป็นอุตสาหกรรม 4.0 แต่ละยุคนั้นได้มีการพัฒนาด้านเครื่องมือหรือเทคโนโลยีในมุมมองใดบ้าง
การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 1: การนำพลังงานไอน้ำและเครื่องจักรกลเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิต ทำให้สามารถผลิตสินค้าในปริมาณมากและลดการใช้แรงงานคน
การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 2: การนำพลังงานไฟฟ้าและสายการผลิตมาประยุกต์ใช้ในโรงงาน ทำให้สามารถผลิตสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากขึ้น
การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 3: การนำระบบคอมพิวเตอร์และระบบอัตโนมัติเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิต ทำให้สามารถควบคุมการผลิตได้อย่างแม่นยำและลดการสูญเสียทรัพยากร
อุตสาหกรรม 4.0 คืออะไร
อุตสาหกรรม 4.0 การผสมผสานเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น Internet of Things (IoT), ปัญญาประดิษฐ์ (AI), การวิเคราะห์ข้อมูล (Big Data), หุ่นยนต์ และเทคโนโลยีอื่นๆ...
เศรษฐกิจโลกชะลอตัวและเศรษฐกิจไทยเติบโตช้า ถือเป็นปัจจัยที่ท้าทายต่อการเติบโตของทุกอุตสาหกรรม โดยเศรษฐกิจโลกปี 2024 ถือเป็นปีที่ยาก IMF ประเมินว่าเศรษฐกิจโลกปีนี้มีแนวโน้มขยายตัวประมาณ 3.2% ซึ่งความท้าทายยังคงมีอยู่จากความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น ต้นทุนการค้าโลกจึงพุ่งสูงเป็นเงาตามตัว แม้เงินเฟ้อจะมีแนวโน้มที่ดี แต่ดอกเบี้ยนโยบายยังคงอยู่ในระดับสูง และยังเจอกับปัญหาจีนระบายสินค้ากระจายไปทั่วโลก ทำให้เอสเอ็มอีในแต่ละประเทศอยู่ยากมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยังมี “โอกาส” อยู่เสมอ finbiz by ttb จึงขอเสนอข้อมูลด้านเศรษฐกิจ และโอกาสสำหรับอุตสาหกรรมด้านสุขภาพ หรือ เฮลท์แคร์ ซึ่งเป็นเทรนด์ “เฉพาะทาง” ที่กำลังมาแรง และสามารถเติบโตได้ดีในขณะนี้
เศรษฐกิจไทยปี 2024 มีแนวโน้มฟื้นตัวโดยคาดว่าเติบโตได้ประมาณ 2.6% แต่กำลังซื้อภายในประเทศจะชะลอลงโดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบาง จากปัญหาหนี้ครัวเรือนเรื้อรังและดอกเบี้ยสูง การเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐล่าช้า ทำให้เศรษฐกิจภูมิภาคไปต่อได้ยาก ขณะที่ปัจจัยบวกอยู่ที่การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจไทยโดยรวมเติบโตช้าและต่ำกว่าศักยภาพ อย่างไรก็ดี ผู้บริโภคยังคงให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ และประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีสำหรับธุรกิจเฮลท์แคร์
ธุรกิจเฮลท์แคร์ เติบโตดีสวนกระแสเศรษฐกิจ
ปี 2024 คาดว่าตลาดบริการทางการแพทย์เอกชนจะมีรายได้เติบโต 4.4 แสนล้านบาท โดยรายได้ 72% ของตลาดมาจากโรงพยาบาลเอกชน...
กระแสความนิยม “อาร์ตทอย” (Art Toy) เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในไทยซึ่ง “อาร์ตทอย” ไม่ได้เป็นเพียงแค่ของเล่นสำหรับเด็กเท่านั้น แต่กลายเป็นของเล่นและของสะสมที่มีการออกแบบสะท้อนถึงตัวตนและความคิดสร้างสรรค์ของศิลปินผู้สร้างสรรค์ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีดีไซน์คาแรกเตอร์หลากหลาย ผลิตออกมาจำกัด และด้วยคุณสมบัตินี้ทำให้ “อาร์ตทอย” เป็นที่ชื่นชอบของคนทุกช่วงวัย หลายคาแรกเตอร์กลายเป็นของหายากที่หลายคนตามหา แม้ราคาซื้อขายในตลาดจะพุ่งสูงขึ้นก็ตาม
จากกระแสความนิยม “อาร์ตทอย” บริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด จึงได้นำเครื่องมือ DXT360 เพื่อฟังเสียงในสังคมออนไลน์ (Social Listening) ระหว่างวันที่ 29 เมษายน - 30 พฤษภาคม 2567 เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ พบว่าบนโซเชียลมีเดียมีการพูดถึง (Mention) “อาร์ตทอย” 4,964 ครั้ง และได้รับการมีส่วนร่วม หรือเอนเกจเมนต์ (Engagement) รวม 2,207,642 ครั้ง โดยแพลตฟอร์ม Facebook เป็นช่องทางที่ได้รับการพูดถึงและมีเอ็นเกจเมนต์ (Engagement) สูงที่สุด
ส่วน...
โดย พัชรินทร์ เกียรติผดุงกุล
กรรมการสมาคมสินแร่และวัสดุก่อสร้าง
ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา เรามักได้รับข่าวสารเกี่ยวกับเศรษฐกิจของญี่ปุ่นว่า ค่าเงินเยนอ่อนมาก เศรษฐกิจไม่เติบโต หรือบางช่วงเวลาก็มีอัตราการเจริญเติบโตที่ติดลบ ระดับราคาสินค้าต่ำลง เป็นภาวะที่เรียกว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอย หรือ Recession ที่กินระยะเวลายาวนานกว่า 3 ทศวรรษ และยังไม่มีท่าที่ที่จะหลุดพ้นจากภาวะดังกล่าวได้
รัฐบาลญี่ปุ่นพยายามแก้ปัญหามาตลอด เช่น เพิ่มอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อจูงใจให้ประชาชนรีบนำเงินออมออกมาใช้จ่าย การแจกคูปองซื้อสินค้าเพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย การลดดอกเบี้ยลงจนอยู่ระดับต่ำใกล้ศูนย์ เพื่อจูงใจให้ใช้จ่ายแทนการออม รวมทั้งรัฐบาลก็ใช้จ่ายมากเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจนมีหนี้สาธารณะสูงกว่า 200% ของรายได้ภายในประเทศ (GDP) ดูญี่ปุ่นแล้วทำให้เกิดคำถามว่าประเทศไทยจะเดินตามรอยประเทศญี่ปุ่นหรือไม่
ประเทศไทยในขณะนี้ก็อยู่ในภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตช้า โดยอัตราการเติบโตของ GDP อยู่ในระดับต่ำกว่า 2% เมื่อปีที่แล้ว การเติบโตของประเทศดูจะค่อยๆลดต่ำลงจากเศรษฐกิจที่อยู่แนวหน้าในอาเซียนช่วงก่อนวิกฤติ ปี 2540 มาเป็นเศรษฐกิจที่เติบโตช้า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจภายหลังสถานการณ์โควิดก็ช้ากว่าประเทศอื่น จนเราแทบจะรั้งท้ายในกลุ่มอาเซียน ในขณะที่เพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม เติบโตอย่างรวดเร็วจากเงินลงทุนจากต่างประเทศที่เข้าไปในเวียดนามมาก การส่งออกที่ก้าวกระโดดนำหน้าประเทศไทยไปแล้ว จึงน่าสนใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับเศรษฐกิจประเทศไทย
ถ้าเราลองดูข่าวที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจประเทศไทยที่นักวิเคราะห์หลายท่านให้ความเห็นไว้ ก็พอจะสรุปและ เทียบเคียงกับประเทศญี่ปุ่นได้ดังนี้
ประการแรก เรื่องโครงสร้างประชากร ประเทศไทยได้เข้าสู่ “สังคมสูงวัย”แล้วในปี 2567 โดยมีผู้ที่มีอายุ เกิน...
“ไม่เชื่ออย่าลบหลู่” คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ชวนสำรวจและทำความเข้าใจปรากฎการณ์ “มูเตลู” ไสยศาสตร์และสิ่งลี้ลับที่สะท้อนสภาพสังคม วิถีชีวิตและสภาวะจิตใจของคนเมือง ที่ต้องต่อสู้กับความเปลี่ยวเหงาและความไม่แน่นอนในชีวิต
เมื่อเอ่ยถึง “ไสยศาสตร์” ศาสตร์ลี้ลับเหนือธรรมชาติ หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่อง “งมงาย” ไม่มีความเป็นวิทยาศาสตร์ แต่หากดูในสื่อและพื้นที่ชีวิตของผู้คนแล้ว เราจะพบว่า “ความมูเตลู” นั้นกระจายอยู่ทั่วทุกแห่งในสังคมเมือง
สี่แยกใหญ่ใจกลางเมืองอย่างแยกราชประสงค์ – แหล่งเศรษฐกิจการค้าและการชอปปิ้ง เป็นศูนย์รวมของเทพเจ้าต่าง ๆ ที่คนไทยและต่างประเทศนิยมมากราบไหว้ขอพรเพื่อความสำเร็จในการงาน โชคลาภ และความรักความสัมพันธ์
ยิ่งในช่วงกว่าทศววรรษหลังมานี้ กระแสความนิยมสิ่งศักดิ์สิทธิ์และวัตถุมงคลยิ่งเพิ่มและขยายตัว เกิดสิ่งศักดิ์สิทธิ์หน้าใหม่ ๆ อาทิ พญานาค พญาครุฑ ท้าวเวสสุวรรณ พระราหู ตลอดจนไอ้ไข่ และครูกายแก้ว ที่เป็นประเด็นถกเถียงกันในสังคมในสื่อโซเซียลมีเรื่องราวที่เกี่ยวกับไสยศาสตร์มากมาย อีกทั้งมีช่องทางรวบรวมและอัปเดท “เทรนด์สายมู” ในแต่ละปี และล่าสุดก็มีเว็บไซต์ที่จะพาผู้สนใจเดินทางไปในโลกออนไลน์เพื่อสักการะสิ่งเคารพอินเทรนด์ต่าง ๆ
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องโหราศาสตร์ วิธีแก้ปีชง เครื่องลางของขลัง หินนำโชค น้ำมันเสริมเสน่ห์ ผ้ายันต์ของทีมฟุตบอลระดับโลก และการนำเสนอข่าวใกล้วันออกผลสลากกินแบ่งรัฐบาล อาทิ เลขทะเบียนรถของนายกรัฐมนตรี หรือเรื่องแปลก เช่น ปลาช่อนสีทอง จอมปลวกรูปเหมือนพญานาค
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของพื้นที่ไสยศาสตร์ในเมืองที่หลากหลายและขยายตัวตามการเติบโตของเมือง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. กัญญา วัฒนกุล
“การที่ไสยศาสตร์งอกงามในสังคมเมืองเป็นเรื่องที่ต้องตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นในสังคมเมือง ที่ทำให้ผู้คนเข้าหาและพึ่งพิงไสยศาสตร์...
นโยบาย 30@30 เป็นที่พูดถึงมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2021 จนมาถึงปัจจุบันที่นวัตกรรมและเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในประเทศไทยแพร่หลายมากขึ้น และ EV ทั่วโลกกำลังตื่นตัวและก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว รวมถึงเริ่มเห็นทิศทางของ EV ในประเทศไทยชัดเจนขึ้น finbiz by ttb จึงขอขยายความแนวทาง 30@30 เพื่อให้ SME เห็นโอกาสในการต่อยอดธุรกิจให้เติบโตได้
30@30 คืออะไร
แนวทางส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) 30@30 เป็นนโยบายของคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ที่ตั้งเป้าหมายการผลิตรถ ZEV (Zero Emission Vehicle) หรือรถที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ให้ได้อย่างน้อย 30% ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมดในประเทศไทย ภายในปี 2030 เพื่อผลักดันประเทศไทยให้ก้าวเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ โดยมีนโยบายส่งเสริม ดังนี้
1. ส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วน ให้ไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญ
2. ส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ทั้งมาตรการทางภาษีและที่ไม่ใช่ภาษี
3. พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับยานยนต์ไฟฟ้า เช่น สถานีอัดประจุและสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ พัฒนากฎหมายและระเบียบต่าง ๆ ให้เหมาะกับการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า
EV ก้าวหน้าไว...