สถาบันไฟฟ้าฯ เผยส่งออกหนุนอุตสาหกรรมไฟฟ้า–อิเล็กทรอนิกส์ไทยโตแรง ไตรมาส 2/2568 มูลค่าพุ่งกว่า 30%

44

สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (EIU) รายงานภาวะอุตสาหกรรมไตรมาส 2 ปี พ.ศ. 2568 เผยภาพรวมมูลค่าการผลิตอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ไทยขยายตัวเชิงมูลค่า 30.11% เมื่อเทียบปีก่อน โดยแรงขับเคลื่อนสำคัญมาจากการส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ที่พุ่งสูงถึง 49.82% ขณะที่ดัชนีผลผลิตไม่ขยับ สะท้อนการเติบโตที่มาจากสินค้ามูลค่าสูงและผลกระทบด้านราคา

แม้ภาคการส่งออกจะสร้างสถิติเติบโตโดดเด่น แต่ตลาดในประเทศกลับสะท้อนความเปราะบางจากภาวะหนี้ครัวเรือนที่กดดันกำลังซื้อ โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับครัวเรือนที่หดตัวลง ขณะเดียวกันแนวโน้มการกระจายห่วงโซ่อุปทานโลกกลับกลายเป็นโอกาสสำคัญที่ดันไทยขึ้นเป็นฐานการผลิตสำคัญของภูมิภาค

นายณรัฐ รุจิรัตน์ ผู้อำนวยการ สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เปิดเผยว่า  “มูลค่าการผลิตรวมของอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศเพิ่มขึ้นกว่า 30% โดยกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์เติบโตโดดเด่นถึง 46.04% จากชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์และคอมพิวเตอร์ที่ราคาสูงขึ้นตามดีมานด์โลก ขณะที่กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าเติบโตเพียง 6.30% ด้านดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เพิ่มเพียง 0.27% สะท้อนว่าแรงหนุนหลักคือ “ราคา” ไม่ใช่ปริมาณสินค้า การส่งออกยังคงเป็นส่วนสำคัญของอุตสาหกรรมฯ โดยในไตรมาส 2/2568 มีมูลค่า 26,966 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นถึง 33.81% ตลาดหลักคือสหรัฐฯ (36.8%) อาเซียน (12.9%) และจีน (11.2%) สินค้าหลักคือส่วนประกอบคอมพิวเตอร์และวงจรรวม ขณะเดียวกันการนำเข้าก็ขยายตัว 37.56% โดยกว่า 72% เป็นชิ้นส่วนเพื่อผลิตและส่งออกต่อ ยืนยันบทบาทไทยในห่วงโซ่อุปทานโลก อย่างไรก็ดี ตลาดในประเทศยังหดตัว โดยการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายในประเทศลดลง 3.97% สาเหตุจากภาระหนี้ครัวเรือนสูง แต่ยังมีการนำเข้าสินค้ามาทดแทน ทำให้มูลค่าตลาดโดยรวมยังขยายตัว 13.05% ด้านสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศขยายตัวได้ถึง 40.69% จากอุปสงค์ในภาคอุตสาหกรรม”

“ในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวแต่ยังนำเข้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ไทยเพิ่มขึ้น เป็นแหล่งนำเข้าอันดับ 5 ของสหรัฐฯ ส่วนจีนแม้เศรษฐกิจเปราะบาง แต่การสนับสนุนเทคโนโลยีขั้นสูงทำให้การส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ไทยไปจีนโตพุ่ง 164% ส่วน EU และอาเซียนต่างมุ่งกระจายความเสี่ยงห่วงโซ่อุปทาน เปิดทางให้สินค้าไทยเข้าตลาดมากขึ้น สำหรับสินค้าเด่นรายหมวด เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา การส่งออกเครื่องปรับอากาศโต 12.17% HDD โต 19.25% และเครื่องเปลี่ยนไฟฟ้าเพิ่มถึง 44.27% สะท้อนบทบาทไทยในตลาดโลกที่แข็งแกร่งขึ้น ทั้งนี้ แนวโน้มไตรมาส 3/2568 คาดว่ามูลค่าการผลิตยังขยายตัวได้ราว 10% แต่กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าอาจกลับมาหดตัว ขณะที่ผู้ประกอบการต้องจับตาความเสี่ยงจากมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ โดยเฉพาะเซมิคอนดักเตอร์ อนาคตอุตสาหกรรมไทยจึงขึ้นอยู่กับการรักษาตำแหน่งในห่วงโซ่อุปทานโลก และการปรับตัวเจาะตลาดสินค้าที่จำเป็นต่อภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม” ผู้อำนวยการ สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ กล่าวทิ้งท้าย