กลุ่มบริษัททีเอพี เข้าสู่การก่อตั้งในปีที่ 26 เดินหน้าร่วมพัฒนาชุมชนรอบโรงงานให้เติบโตอย่างมั่นตงด้วยการร่วมสนับสนุนการศึกษาให้เยาวชน มอบ “ทุนน้ำใจทีเอพี” ให้แก่นักเรียนนักศึกษาที่มีความประพฤติและผลการเรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ในอำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี รวมจำนวนทั้งสิ้น 53 ทุน สำหรับปีการศึกษา 2564 นี้ เพื่อเป็นการขยายโอกาสทางการศึกษาของเยาวชนในชุมชนให้เรียนจนสำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษา สานต่อความฝันในการประกอบอาชีพที่มุ่งหวังของตัวเอง โดยไม่ต้องชดใช้ทุน และจะได้นำองค์ความรู้กลับมาพัฒนาชุมชนต่อไปในอนาคต สร้างชุมชนที่แข็งแรงช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้ดียิ่งขึ้นตามเป้าหมายของการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามแผนแม่บทอย่าง “Brew a Better World” อันเป็นแนวคิดจากกลุ่มบริษัททีเอพีที่ได้ทำอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 11
โครงการ “ทุนน้ำใจทีเอพี” เป็นทุนการศึกษาแบบต่อเนื่องโดยไม่ต้องชดใช้ทุน จะมอบให้แก่เยาวชนที่เรียนดีและมี ความประพฤติดี ให้ได้มีโอกาสศึกษาจนจบระดับปริญญาตรี ซึ่งบริษัทฯ พิจารณามอบทุนให้แก่เยาวชนตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษา 1 จนถึงระดับอุดมศึกษา ที่มีเกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3.00 ในทุกๆ ปีโดยรักษาระดับเกรดเฉลี่ยไว้ได้อย่างต่อเนื่อง หรือเป็นเยาวชนที่มีความสามารถหรือเป็นเยาวชนตัวอย่างที่สร้างชื่อเสียงให้ชุมชน โดยทุนนี้เราพิจารณามอบให้เยาวชนใน 2 ตำบลของจังหวัดนนทบุรี คือ ตำบลราษฎร์นิยม และตำบลไทรใหญ่ ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ชุมชนที่อยู่บริเวณโรงงานของเรา...
ฝ่ายพัฒนาธุรกิจเพื่อสังคม บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล และบริษัทในเครือ โดย 3BB จังหวัดนนทบุรี โดยคุณปราณี ภูลายยาว ผู้จัดการเขต เข้าส่งมอบบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ให้กับหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ไทยพีบีเอส - ธนบุรี เฮลท์แคร์กรุ๊ป ณ สถานีโทรทัศน์สถานีไทยพีบีเอส ถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อใช้ในกิจกรรมของหน่วย และเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน และอาสาสมัคร ของหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 รวมทั้งประชาชนที่ลงทะเบียนเข้ารับการฉีดวัคซีน โดยมีคุณสมพร เจียสารัมย์ IT Manager สถานีโทรทัศน์สถานีไทยพีบีเอส เป็นผู้รับมอบ ในโอกาสนี้ ยังได้ส่งมอบน้ำดื่มจำนวน 100 แพค เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกำลังใจ ส่งต่อความห่วงใย ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนที่เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด -19 อีกด้วย
“เมืองไทยประกันภัย” ร่วมกับ “มูลนิธิมาดามแป้ง” #ส่งต่อน้ำใจคนไทยไม่ทิ้งกัน มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์แก่ โรงพยาบาลราชวิถี เพื่อใช้สำหรับดูแลผู้ป่วยภายใต้โครงการ Home Isolation มูลค่ารวม 100,000 บาท ซึ่งประกอบไปด้วย เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว และปรอทวัดไข้แบบดิจิตอล โดยมี นพ.กนกพจน์ จันทร์ภิวัฒน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านบริการทางการแพทย์ และนายแพทย์ชำนาญการพิเศษด้านเวชกรรม พร้อมด้วยตัวแทนบุคลากรผู้ดูแลโครงการฯ เข้าร่วมรับมอบ ณ ตึกสิรินธร ชั้น 10 โรงพยาบาลราชวิถี
นอกจากนี้ ทุกท่านสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการให้ ด้วยการบริจาคและสมทบทุนได้ที่บัญชี ธนาคารกสิกรไทย เลขที่บัญชี 092-2-61340-0 ชื่อบัญชี มูลนิธิมาดามแป้ง เพื่อโครงการสร้างสังคมแห่งการให้ #ส่งต่อน้ำใจคนไทยไม่ทิ้งกัน #เมืองไทยประกันภัย #มูลนิธิมาดามแป้ง
ด้วยจิตสำนึกของการเป็นผู้ให้และความห่วงใยคนในสังคม กรุงเทพประกันภัยไม่หยุดนิ่งที่จะช่วยดูแลส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน โดยมอบเครื่องช่วยหายใจและอุปกรณ์การแพทย์ให้แก่สถานพยาบาลต่างๆ รวมทั้งมอบสิ่งของช่วยเหลือที่จำเป็นแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิดและผู้ที่เดือดร้อนมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน รวมมูลค่าเกือบ 40 ล้านบาท
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด- 19 ระลอกใหม่ในครั้งนี้ทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในแต่ละวันยังคงพบผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก รวมถึงผู้ป่วยที่ต้องเข้าระบบการรักษาในสถานพยาบาลมีมากขึ้นทุกวัน ส่งผลให้โรงพยาบาลต่างๆ เกือบทั่วประเทศขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ซึ่งเป็นเครื่องมือที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อการรักษาผู้ป่วยที่วิกฤต ซึ่งไม่เพียงแต่เครื่องช่วยหายใจเท่านั้นที่ไม่เพียงพอ แต่ยังมีอุปกรณ์ทางการแพทย์อื่นๆ ที่โรงพยาบาลและโรงพยาบาลสนามซึ่งเปิดขึ้นเฉพาะกิจก็มีความต้องการเป็นอย่างมากเช่นกัน และไม่เพียงเท่านี้ บริษัทฯ ยังได้มอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นอื่นๆ ให้แก่ชุมชนและหน่วยงานต่างๆ เพื่อช่วยเหลือบรรเทาแก่ผู้ได้รับความเดือดร้อนให้เขาเหล่านั้นได้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น
ด้วยเหตุนี้ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI โดยนายชัย โสภณพนิช ประธานกรรมการ ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ นายชวาล โสภณพนิช ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และนางสาวลสา โสภณพนิช ผู้อำนวยการ ธุรกิจนายหน้า จึงได้ร่วมมอบเครื่องช่วยหายใจและอุปกรณ์ทางการแพทย์อื่นๆ ที่จำเป็นเพื่อช่วยบรรเทาภาวะวิกฤตโควิดที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 19,825,336...
บริษัท กัปตัน โค๊ทติ้ง จำกัด ร่วมกับกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) มอบผลิตภัณฑ์สีทารองพื้น สีเคลือบเงา และสีทาภายในและภายนอกอาคาร รวมมูลค่ากว่า 60,000 บาท เพื่อสนับสนุนการก่อสร้างและเร่งปรับปรุงอาคารของโรงพยาบาลสนาม บ้านฉาง EEC ให้สามารถรองรับผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเหลือง โดยมีนายไพโรจน์ เฮงไม้ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายขายของกัปตัน และนายณัฐพงศ์ จิรวัฒนาวรกุล ผู้จัดการแผนกสื่อสารองค์กรและชุมชนสัมพันธ์ประจำโรงงานของ Dow มอบผลิตภัณฑ์ให้กับนายสุชิน พูลหิรัญ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านฉาง และคณะผู้บริหาร ณ สำนักงานเทศบาลตำบลบ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่นำมาสนับสนุนการปรับปรุงอาคารในครั้งนี้ สามารถใช้ทาครอบคลุมพื้นที่ได้มากกว่า 1,350 ตารางเมตร ประกอบด้วย สีรองพื้นอเนกประสงค์ กัปตัน เพอร์เฟ็กซ์ ไพรเมอร์ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะ ป้องกันเชื้อราและตะไคร่น้ำได้ดี กัปตัน เกรย์ ไพรเมอร์ สีรองพื้นเทากันสนิม...
บมจ.ไทยสมุทรประกันชีวิต รักคือพลังของชีวิต โดยคุณนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ เห็นถึงปัญหาการขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์จากสถานการณ์วิกฤต COVID-19 จึงได้จัดกิจกรรม “โอชิชวนทำดี Season 2” มอบเงิน 1,000,000 บาท ให้กับ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เพื่อนำไปสมทบทุนสร้างโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร โรงพยาบาลซึ่งจะเป็นศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางการแพทย์ครบวงจร เพื่อเป็นที่พึ่งพาของผู้ป่วย และสร้างสรรค์งานวิจัยเทคโนโลยีทางการแพทย์ฝีมือคนไทยในระดับภูมิภาค พร้อมนำไปผลิตเครื่องจ่ายออกซิเจน KMITL High Flow ส่งมอบให้โรงพยาบาลสนาม และโรงพยาบาลที่ขาดแคลนทั่วประเทศ และจัดหารถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย เพื่อตรวจเชื้อ COVID-19 เชิงรุก หวังช่วยคลายวิกฤต COVID-19 ให้ได้โดยเร็วที่สุด
โดยเงินที่ร่วมสมทบทุนครั้งนี้ ได้รับการร่วมแรงร่วมใจจากลูกค้าประชาชน ที่ร่วมกิจกรรมโอชิชวนทำดี Season 2 ผ่าน OCEAN CLUB APP เพียงใช้ OCHI COIN...
นักวิชาการธรรมศาสตร์ เผยตัวเลขภาพรวมเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศไทยปี’63 (ครอบคลุมทั้งอีคอมเมิร์ซ ธุรกิจเรียกรถและสั่งอาหารออนไลน์ การท่องเที่ยวออนไลน์ และสื่อออนไลน์) มีมูลค่าสูงถึง 5.4 แสนล้านบาท คาดเติบโตเฉลี่ย 25% ต่อปี ไปอีก 5 ปี ระบุโควิดฯ ดันตลาดอีคอมเมิร์ซโตถึง 81% ชดเชยการชะลอตัวของธุรกิจท่องเที่ยวออนไลน์ ขณะที่ธุรกิจเรียกรถ-สั่งอาหารผ่านแอปฯ มีมูลค่ารวมสูงถึง 3.3 หมื่นล้านบาท พร้อมก้าวกระโดดเป็น 2 แสนล้านบาทในอีก 5 ปีข้างหน้า แนะภาครัฐปรับตัวและส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีเพื่อต่อยอดธุรกิจแทนการออกกฎหมายฉุดรั้งเศรษฐกิจดิจิทัล
ผศ.ดร.สุทธิกร กิ่งเเก้ว ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านธุรกิจระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจดิจิทัล เปิดเผยถึงภาพรวมการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) และในประเทศไทย อ้างอิงจากรายงาน e-CONOMY SEA 2020 โดย Google, Temasek, Bain & Company ว่า การใช้อินเทอร์เน็ตในอาเซียนเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง...
จากนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ที่ต้องการระบายสินค้าเกษตรส่งออกไปขายต่างประเทศ โดยพยายามมุ่งสู่ประเทศที่มีศักยภาพและกำลังการซื้อ หนึ่งในนั้นคืออินเดีย ธราดล ทองเรือง อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายการพาณิชย์ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงนิวเดลี กล่าวถึงโอกาสการขยายออเดอร์ ข้าว ยาง และ ปาล์ม ในตลาดินเดียยังมีความสดใส
ระบายข้าวสู่ตลาดโลก
ในส่วนของข้าว นายธราดลกล่าวว่า แม้การส่งเข้าไปขายให้ผู้บริโภคชาวอินเดียโดยตรงอาจลำบาก เนื่องจากอินเดียเป็นหนึ่งในผู้ปลูกข้าวรายใหญ่ของโลก โอกาสที่จะนำเข้าจากต่างประเทศค่อนข้างยาก ยกเว้นในบางปีที่มีมรสุมหรือเกิดภาวะแห้งแล้งจนผลิตได้น้อยไม่เพียงพอต่อการบริโภคจึงจะนำเข้า อย่างไรก็ตาม หากเราใช้เทรดเดอร์ของอินเดียช่วยกระจายข้าวไปยังตะวันออกกลาง เช่น อิหร่าน ซาอุดิอาระเบีย ยูเออี อิรัก หรือแอฟริกา เช่น เบนิน ไอเวอรี่โคส แอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นตลาดที่คนอินเดียมีความคุ้นเคยและค้าขายกันอยู่ก็จะทำให้เราสามารถขายข้าวไปในประเทศเหล่านั้นได้มากขึ้น
ยางพาราโอกาสสูง
สำหรับกลุ่มยางพาราต้องบอกว่าเรายังมีโอกาสอีกมาก แม้ในอินเดียจะมีการปลูกยางทางแถบภาคใต้อย่างรัฐทมิฬนาดูหรือรัฐเคลาร่า แต่ก็ไม่เพียงพอกับการบริโภคภายในประเทศ เนื่องจากเขาผลิตได้ประมาณ 9 แสนตันถึง 1 ล้านตันต่อปี แต่การบริโภคภายในประเทศมีสูงถึง 1.3 ล้านตันต่อปี ต้องนำเข้าประมาณ 3.5-4 แสนตันต่อปี โดยนำเข้าจากอินโดนีเซียเป็นหลัก นำเข้าจากไทยยังค่อนข้างน้อย สาเหตุที่อินเดียนำเข้ายางพาราจากไทยน้อยกว่าอินโดนีเซียเพราะว่าที่ผ่านมาเราเน้นการขายให้กับจีนเป็นหลัก...
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมาได้มีการประชุม INDIA-THAILAND BUSINESS SUMMIT AT BANGKOK ณ โรงแรมแมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค มีนักธุรกิจจากเมืองกัลกัตตา ประเทศอินเดียเข้าร่วมสัมมนา ธราดล ทองเรือง อัครทูตที่ปรึกษาฝ่ายการพาณิชย์ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงนิวเดลี กล่าวภายหลังการประชุมว่า ทางสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงนิวเดลี ร่วมกับหอการค้า Bengal National Chamber of Commerce & Industry (BNCCI) ซึ่งเป็นหอการค้าเก่าแก่ที่สุดของอินเดียและใหญ่ที่สุดของกัลกัตตา มีอายุ 132 ปี ร่วมกันจัดงานนี้เพื่อโปรโมทความสัมพันธ์ด้านการค้าการลงทุนและธุรกิจ ระหว่างเมืองกัลกัตตากับประเทศไทย นำนักธุรกิจจากกัลกัตตามาทั้งหมด 20 บริษัท ซึ่งทำธุรกิจหลากหลายสาขา
“การมาครั้งนี้นำโดยประธานหอการค้า BNCCI มีสถานทูตอินเดียประจำประเทศไทยให้การสนับสนุนและร่วมเปิดงาน รวมถึงสมาคมเอสเอ็มอีไทยโกอินเตอร์ ซึ่งเป็นสมาคมใหม่ก็ได้เชิญสมาชิกที่สนใจจะทำการค้ากับกัลกัตตามาพูดคุยกัน...
นักธุรกิจที่ปรากฏอยู่ตรงหน้ากองบรรณาธิการ creative econ มีใบหน้าที่ดูอ่อนโยน บุคลิกอ่อนน้อม ทว่า!คงความเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวอยู่ในที
หนึ่งคือ‘ทรงวุฒิ ตรีเทพจุลยากูล’ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สรรพสินค้าเวลเนส จำกัด
อีกหนึ่งคือ 'ทัศนี ตรีเทพจุลยากูล’ กรรมการผู้จัดการ บิวตี้ ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ศูนย์จำหน่ายอุปกรณ์สปา-โรงแรมในเครือบริษัท สรรพสินค้าเวลเนส จำกัด
แม้จะเป็นการพบกันครั้งแรก แต่บทสนทนากลับราบรื่นและเป็นกันเอง
ข้าวมันไก่ร้านดังย่านประตูน้ำวางเรียงกันหลายกล่องบนโต๊ะข้างๆ ‘ทรงวุฒิ ตรีเทพจุลยากูล’ กล่าวด้วยน้ำเสียงเสียดายเมื่อเราปฏิเสธที่จะทานไปด้วย คุยไปด้วย เพราะเพิ่งทานอาหารกลางวันก่อนเข้ามา
เราเองก็นึกเสียดายไม่น้อยที่ไม่ได้ทานข้าวมันไก่ร้านดังที่สุดในเมืองไทย เพราะไม่ใช่จะมีโอกาสรับประทานได้ง่ายๆ ต่อให้เดินทางไปถึงร้านก็ต้องใช้ความอดทนยืนรอคิวที่ยาวเหยียด (นึกในใจไม่น่ารีบทานข้าวมาก่อนเลย...555)
เราพกความสงสัยตั้งแต่วันแรกที่ได้ยินชื่อ ‘เวลเนสลิสซิ่ง’ (WELLNESSleasing) ว่าเป็นสินเชื่อประเภทไหน เพราะฉะนั้นคำถามแรกที่เรายิงตรงก็คือ ‘เวลเนสลิสซิ่ง’ หมายความว่าอะไร
“เวลเนสลิสซิ่งคือสินเชื่อสำหรับการประกอบธุรกิจโรงแรมและสปา เป็นสินเชื่อแบบใหม่ที่เพิ่งมีขึ้นเป็นครั้งแรกในเมืองไทย เพื่อสนับสนุนนักลงทุนที่ต้องการเข้าสู่ธุรกิจโรงแรมและสปา” ทรงวุฒิ ตรีเทพจุลยากูล เอ็มดีบริษัท สรรพสินค้าเวลเนส จำกัด กล่าวพร้อมอธิบายต่อว่า บริษัท สรรพสินค้าเวลเนส มีศูนย์จำหน่ายอุปกรณ์สปา-โรงแรมแบบวันสต็อปชอปเจ้าแรกในเมืองไทยชื่อว่าเวลเนสดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ซึ่งมีจำนวนลูกค้านับพันราย ลูกค้าหลายรายที่มาซื้ออุปกรณ์อยากปรับปรุงธุรกิจ บางรายอยากขยายกิจการสปา-โรงแรม แต่ติดปัญหาสำคัญคือ..เงิน
“ผมกับภรรยาจึงช่วยกันคิดโครงการเวลเนสลิสซิ่ง ซึ่งประกอบด้วยคอนเซ็ปต์...