เปิดตัวหนังสือสุดยอดเคล็ดวิชาตามหลักวิทยาศาสตร์สมอง GeniusX เพื่อความสำร็จ

1867

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันก่อนอาจารย์ดำรงค์ พิณคุณ นักคิด นักเขียน นักกลยุทธ์การตลาด เจ้าของฉายาอายุน้อยร้อยล้านคนแรกของประเทศไทย แถลงเปิดตัวหนังสือเล่มใหม่ ชื่อว่า GeniusX Business Intelligence (สมองอัจฉริยะชนะเกมธุรกิจ) เป็นหนังสือที่เกี่ยวกับการแบ่งประเภทคนตามหลักของวิทยาศาสตร์สมอง เพื่อให้ทุกคนเข้าใจตัวเองก่อนที่จะนำความถนัดและวิธีคิดที่เหมาะกับตัวเองมาต่อยอดในการบริหาร ในกระบวนการคิด เพื่อความสำเร็จและความก้าวหน้าทางธุรกิจ โดยต้องการให้คนไทยได้อ่านและทราบถึงทางลัดสู่ความสำเร็จในแบบของตนเอง

อาจารย์ดำรงค์กล่าวว่า  GeniusX Business Intelligence เป็นหนังสือที่เหมาะสำหรับคนวัยทำงานที่อยากจะประสบความสำเร็จในชีวิต อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง โดยไม่ต้องลองผิดลองถูก ถ้าได้อ่านเล่มนี้จะรู้ว่ามีทางลัดพิเศษที่สามารถนำไปใช้ได้จริง พูดได้ว่า GeniusX คือสุดยอดเคล็ดวิชาการแบ่งประเภทคน ตามหลักวิทยาศาสตร์สมอง (Neuroscience) เพื่อทะยานสู่การก้าวขึ้นเป็นสุดยอดผู้นำในแวดวงการทำธุรกิจ ตามความถนัดและลักษณะเฉพาะของตัวเอง

“เนื้อหาสาระสำคัญจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับวิธีการ พฤติกรรมต่างๆ ความถนัด การชื่นชอบ การหัดสังเกตผู้คนและสิ่งรอบข้างที่ทำให้ผู้อ่านเรียนรู้ ทั้งได้รู้จักตัวเองมากขึ้นและได้รู้อีกว่าควรจะใช้กลยุทธ์แบบไหนถึงจะประสบความสำเร็จ ซึ่งปัจจุบันนี้เราก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอลอย่างเต็มรูปแบบแล้ว ดังนั้นวิธีคิดก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม” อาจารย์ดำรงค์กล่าวและว่า ขั้นตอนของตนมี  4 ขั้นคือ การสร้าง Awareness หรือสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์  ซึ่งสำคัญที่สุด เพราะทุกวันนี้มีแบรนด์เกิดขึ้นมาใหม่เป็นแสนๆ ล้านๆ แบรนด์ จึงต้องให้ความสำคัญเพื่อที่จะให้แบรนด์เราเข้าไปอยู่ในการรับรู้ของผู้บริโภคและต้องทำให้ผู้บริโภคจดจำเราให้ได้ ขั้นที่สองคือ Research  ให้ความสำคัญกับการค้นหาข้อมูลของลูกค้า สำคัญรองลงมา เพราะปัจจุบันถือเป็นยุคที่ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว  จำเป็นต้องมีข้อมูลรองรับการค้นหาของผู้บริโภค เช่น การทำ SEO รวมไปถึงการซื้อโฆษณาบนหน้าของ google ขั้นนี้มีส่วนช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสินค้าหรือแบรนด์ของเราอีกด้วย  ขั้นที่สาม Purchase การซื้อขาย ขั้นนี้เป็นขั้นตอนที่เกิดขึ้นหลังจากผู้บริโภครับรู้ถึงการมีอยู่ของแบรนด์เรา สินค้าเรา และทำการสืบค้นข้อมูลเรียบร้อยแล้ว  จึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับตัวสินค้าและช่องทางการซื้อขายที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้อย่างหลากหลาย เช่น Facebook, Website, Google  และขั้นสุดท้ายคือ Share  หรือการส่งต่อข้อมูล เปรียบเสมือนการสื่อสารแบบปากต่อปาก  ซึ่งการแชร์นั้นทรงอิทธิพลมาก เพราะเพียงผู้บริโภคแชร์ 1 ครั้ง จะมีเพื่อนหรือคนอื่น ๆ เห็นเพิ่มอีกหลายร้อยคน เพราะฉะนั้นทำอย่างไรก็ได้ให้เกิดการบอกต่อแบรนด์เราไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นจากตัวคอนเทนต์ที่ดี จากผลิตภัณฑ์ที่ดี บริการที่น่าประทับใจ เมื่อผู้บริโภคแชร์คุณค่าดีๆ ที่เราสร้างไว้ ก็จะทำให้คนที่ไม่รู้จักได้เห็นสินค้าเราหรือแบรนด์เรามากขึ้น เกิดเป็น awareness จากนั้นก็ไปทำการ Research ข้อมูล และทำการ Purchase และเกิดการ Share ขึ้นใหม่ วนกันไปแบบนี้ จะขาดขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งไปไม่ได้

พร้อมระบุว่า ยังให้ความสำคัญกับกลยุทธ์การใช้และเข้าใจสมองอีก 3 ขั้น ได้แก่ ขั้นที่ 1 ต้องรู้ตนเองและผู้อื่น จากวิชา GeniusX  จำเป็นต้องเข้าใจว่าตัวเรามีพฤติกรรมอย่างไร มีความถนัดในการใช้สมองส่วนใด เพื่อดึงศักยภาพสูงสุดของตัวเองออกมาใช้งาน อีกทั้งยังช่วยให้เข้าใจระบบความคิด และพฤติกรรมของคนรอบข้างที่เราต้องมีปฏิสัมพันธ์ด้วย

ขั้นที่ 2 รู้จักพัฒนาศักยภาพสมองของตนเองจากวิชา Neuro Genius หลังจากที่รู้และเข้าใจว่าตนเองมีระบบความคิดอย่างไร ส่งผลให้มีพฤติกรรมอย่างไรแล้ว เราจะรู้ว่าเราใช้สมองส่วนใหญ่ไปกับสิ่งใด แต่วิชา Neuro Genius เป็นวิชาที่จะช่วยให้พัฒนาในสิ่งที่ไม่ถนัดเพื่อลดช่องว่างของจุดอ่อนในตัวเองส่งให้สมองพัฒนาศักยภาพของตัวเองให้ได้มากขึ้น อีกทั้งยังช่วยดึงประสิทธิภาพสูงสุดจากสิ่งที่เราถนัดมาใช้ได้อีกด้วย

ขั้นที่ 3 เราต้องรุู้จักกลยุทธ์การตลาดที่จะส่งตรงไปยังสมองของลูกค้า จากวิชา NeuroMarketing ซึ่งเป็นวิชาที่ทำให้เราสามารถพุ่งตรงไปยังสมองของผู้บริโภคได้ โดยขั้นนี้ต้องเรียนรู้หลักการทำงานของระบบความคิด สมอง และพฤติกรรมของผู้บริโภค เพราะในปัจจุบันนี้ผู้บริโภคมีตัวเลือกเพิ่มมากขึ้น สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น จึงทำให้พวกเขาไม่ได้จดจ่อกับบางสิ่งบางอย่างมากนัก ดังนั้นเราต้องใช้เวลา 3 วินาทีเพื่อกุมหัวใจผู้บริโภคมาให้ได้ ก่อนที่พวกเขาจะเลื่อนจอโทรศัพท์หนีไป โดย NeuroMarketing เป็นวิชาที่ศึกษาสมอง วิธีคิด พฤติกรรมของผู้บริโภค เพื่อนำความรู้เหล่านั้นมาใช้ในการตลาด หรือเป็นวิชาที่ผสานระหว่างวิทยาศาสตร์และการตลาดเข้าด้วยกัน

ทั้งนี้พอสรุปได้ว่าเคล็ดลับในการทำธุรกิจแบบอาจารย์ดำรงค์นั้นประกอบไปด้วย 4 ขั้นตอนในการสร้างแบรนด์และขายสินค้า ได้แก่ 1)Awareness 2)Research 3)Purchase และ 4)Share อีกทั้งยังต้องมีกลยุทธ์ในการเข้าใจสมองของตนเองและของผู้บริโภคด้วยวิชา GeniusX วิชา NeuroGenuis และวิชา NeuroMarketing นั่นเอง

อย่างไรก็ตามอาจารย์ดำรงค์  ให้แนวคิดและไอเดียสำหรับผู้ที่กำลังอยากเริ่มต้นธุรกิจว่า  ปกติแล้วคนเราจะมีอยู่ 2 ประเภท นั่นคือคนคิดถูก และคนทำถูก  คนคิดถูกหรือกลุ่มนักคิด ที่คิด คิด แล้วก็คิด มีความรู้อย่างลึกซึ้งเฉพาะทาง เป็นนักวิเคราะห์ข้อมูลชั้นเลิศ ซึ่งบางอาชีพนั้นก็เหมาะกับคนที่คิดถูก เช่น อาจารย์ นักวิชาการ ด็อกเตอร์ เป็นต้น ส่วนอีกคนคือคนทำถูก คือคนที่ลงมือทำอะไรก็ทำอย่างจริงจัง ซึ่งบางครั้งก็อาจทำไปทั้ง ๆ ที่ไม่ได้คิดถึงผลลัพธ์อะไรนัก ขอเพียงแค่ได้ลงมือปฏิบัติ อย่างเช่นบรรดานักทำทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้า คนที่ทำเพื่อสังคม เป็นต้น

“หากคุณอยากทำธุรกิจ คุณจำเป็นต้องมีส่วนผสมของการคิดถูกและทำถูกอย่างลงตัว จะมีเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ คุณต้องเริ่มด้วยการคิดที่ถูกต้อง มีความรู้อย่างลึกซึ้งในสิ่งที่จะทำ ต้องมีการวิเคราะห์อย่าถี่ถ้วน และที่สำคัญคุณคิดแล้วคุณต้องลงมือทำด้วยวิธีการที่คุณคิดขึ้นมานั่นแหละครับ สรุปได้ว่า การจะเริ่มต้นธุรกิจนั้น คุณจำเป็นต้องเป็นคนที่คิดถูกและทำถูกด้วยจึงจะประสบความสำเร็จ” อาจารย์ดำรง กล่าวในตอนท้าย

สำหรับหนังสือ GeniusX Business Intelligence (สมองอัจฉริยะ ชนะเกมธุรกิจ) จะวางจำหน่ายตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป ร้านนายอินทร์ / Se-ed/ Asiabooks/ B2S / Kinokuniya หรือสามารถสั่ง Pre-order ในรูปแบบหนังสือหรือ E-book ได้ทาง FB: Damrongpinkoonหรือแอปพลิเคชัน Damrongpinkoon