วันพุธ ที่ 17 กันยายน 2025

การจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีและนวัตกรรม (Technology and Innovation Support Centers  หรือ TISC) นับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่จะช่วยให้มหาวิทยาลัยยกระดับคุณภาพของงานวิจัย จากการใช้ระบบข้อมูลทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมระดับโลก สามารถยื่นจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาให้กับบุคลากรของมหาวิทยาลัย ผลักดันงานวิจัยเพื่อสร้างเศรษฐกิจและเทคโนโลยีนวัตกรรมด้วยทรัพย์สินทางปัญญาให้เกิดประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ โดยการอนุญาตให้ใช้สิทธิผ่านช่องทางต่างๆ พร้อมทั้งสร้างงานวิจัยและนวัตกรรมที่มีมูลค่าสอดคล้องกับความต้องการของตลาดและอุตสาหกรรม  มุ่งเน้นการบูรณาการในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน เกิดระบบนิเวศน์ของนักคิด นักการตลาด และผู้ประกอบการรุ่นใหม่ เพื่อขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน ช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในระดับนานาชาติ  ซึ่งปัจจุบันศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีและนวัตกรรม (TISC) มีอยู่ 80 ประเทศทั่วโลก เช่น ฟิลิปปินส์ เวียดนาม เป็นต้น เป็นเครือข่ายในการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ของนักวิจัยและนักนวัตกรรมจาก 900 ศูนย์              กรมทรัพย์สินทางปัญญา หรือ DIP ได้ร่วมกับองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (World Intellectual Property Organization หรือ WIPO) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 ส่งเสริมให้สถาบันการศึกษาและสถาบันวิจัยในภูมิภาคต่างๆ ของไทย จัดตั้งศูนย์ TISC ขึ้นในหน่วยงาน เพื่อเป็นศูนย์กลางและแหล่งข้อมูลของนักนวัตกรรมจากทั่วโลก สนับสนุนให้นักประดิษฐ์ นักวิจัย ผู้ประกอบการ ภาคอุตสาหกรรม และภาคการศึกษาได้เข้าถึงข้อมูลด้านทรัพย์สินทางปัญญา สถิติ และเทคโนโลยีด้านต่างๆ  อันจะส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ พัฒนา และมีประสิทธิภาพต่อบุคลากรและหน่วยงาน...
ด้วยทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดในโลกยุคปัจจุบัน หนึ่งในปัจจัยสำคัญตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ข้อ 12 ที่ว่าด้วยการบริโภคด้วยความรับผิดชอบ (Responsible Consumption) คือ การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่แล้วนั้น ให้เกิดประโยชน์สูงสุดร่วมกัน             ด้วยสำนึกในความเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน ในช่วงวิกฤติCOVID-19 จึงไม่อาจนิ่งเฉยต่อความทุกข์ยากของคนในชุมชน เมื่อเร็วๆ นี้ โครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งมีที่ตั้ง ณ ตำบลเขาทอง อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ ได้จัดสรรปรับปรุงอาคาร "ห้องเรียนปลายเนิน" ซึ่งเดิมใช้เพื่อการเรียนการสอนของอาจารย์ชาวต่างประเทศ และอาคาร "บ้านกลางน้ำ" ซึ่งใช้ทำกิจกรรมของนักศึกษา เป็น "ศูนย์พักคอยกันภัยมหิดล" (Mahidol University Community Isolation - MUCI) ตรวจคัดกรองและดูแลอาการของผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในเบื้องต้น ขนาด 20 เตียง เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อที่เป็นชาวชุมชนตำบลเขาทอง ซึ่งเดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดสีแดงเข้ม 29 จังหวัดของประเทศ และประสบปัญหาโรงพยาบาลชุมชนประจำท้องถิ่นเตียงเต็มจนไม่สามารถรับผู้ป่วยเพิ่ม พร้อมจัด 2 สูตรยาสมุนไพรแพทย์แผนจีนเพื่อการบำรุงและรักษาอาการของโรค COVID-19             อาจารย์ แพทย์หญิงมนทกานติ์ โอประเสริฐสวัสดิ์ รองอธิการบดีฝ่ายโครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า วิทยาเขตนครสวรรค์ มีความพร้อมทั้งในด้านอาคารสถานที่ บุคลากรทางการแพทย์ องค์ความรู้ด้านส่งเสริมสุขภาวะ และอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็น โดยได้มีการจัดตั้ง "ศูนย์การแพทย์มหิดลบำรุงรักษ์ จังหวัดนครสวรรค์" เพื่อเป็นที่พึ่งทางสุขภาวะของประชาชนในชุมชนมาเป็นเวลากว่า 2 ปี เมื่อเร็วๆ นี้ได้ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนตำบลเขาทอง โรงพยาบาลพยุหะคีรี โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพส่วนตำบลเขาทอง และวัดเขาทอง เปิดศูนย์พักคอยกันภัยมหิดล (Mahidol University Community Isolation - MUCI) ขึ้น ภายในวิทยาเขตฯ โดยรับผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการไปจนถึงมีอาการเล็กน้อย มาพักคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ในอาคารซึ่งปรับปรุงจากอาคารเรียนและอาคารทำกิจกรรมที่อยู่แยกจากพื้นที่หลักของวิทยาเขตฯ โดยมีนักศึกษาและบุคลากรของวิทยาเขตฯ พร้อมต้อนรับช่วยเหลือ             "ปัญหาโรคระบาด ถือเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ COVID-19 ที่เกิดปรากฏการณ์พบจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั่วประเทศ จนโรงพยาบาลต่างๆ ไม่สามารถรองรับได้ และมีจำนวนไม่น้อยที่ถูกปฏิเสธจากบางชุมชนที่ตนอยู่ในขณะนี้ ซึ่งการที่ชาวชุมชนตำบลเขาทองได้ร่วมแรงร่วมใจทำ Community Isolation ให้เกิดขึ้นนี้ คาดว่าจะสามารถช่วยจุดประกายให้ชุมชนอื่นๆ ได้ต่อไป โดยจะไม่มองว่าเป็นปัญหาของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นปัญหาที่ทุกคนต้องช่วยกันดูแล และเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้ต่อไปได้" อาจารย์ แพทย์หญิงมนทกานติ์ โอประเสริฐสวัสดิ์ กล่าว             นอกจากการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุดจากการปรับปรุงอาคาร "ห้องเรียนปลายเนิน" และอาคาร "บ้านกลางน้ำ" ให้เป็น "ศูนย์พักคอยกันภัยมหิดล" (Mahidol University Community Isolation - MUCI) แล้วศูนย์การแพทย์มหิดลบำรุงรักษ์ จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งมีความโดดเด่นด้านแพทย์แผนจีน ยังได้คิดค้นสูตรยาสมุนไพรแพทย์แผนจีนสำหรับผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่มาพำนักที่ ศูนย์พักคอยกันภัยมหิดล (Mahidol University Community Isolation - MUCI) จากยาสมุนไพรแพทย์แผนจีนที่มีอยู่แล้วของแผนกแพทย์แผนจีน ศูนย์การแพทย์มหิดลบำรุงรักษ์ จังหวัดนครสวรรค์ ถึง 2 สูตรด้วยกัน แพทย์แผนจีน ธนัตเทพ เตระทวีดุลย์ หัวหน้าฝ่ายแพทย์ทางเลือก ศูนย์การแพทย์มหิดลบำรุงรักษ์ จังหวัดนครสวรรค์ ได้เปิดเผยถึง 2 สูตรยาสมุนไพรแพทย์แผนจีนที่ทางศูนย์การแพทย์มหิดลบำรุงรักษ์ จัดไว้ในลักษณะบรรจุเสร็จสำหรับผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่มาพำนักที่ ศูนย์พักคอยกันภัยมหิดล" ตลอด14 วันว่า ได้มาจากการศึกษาวิจัยของจีนซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลาย แล้วนำมาปรับเป็นสูตรเฉพาะของศูนย์การแพทย์มหิดลบำรุงรักษ์ จังหวัดนครสวรรค์             ซึ่งยาสมุนไพรแพทย์แผนจีนสูตร 1 ที่จัดสำหรับผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการจะเป็นยาบำรุง ส่วนยาสมุนไพรแพทย์แผนจีนสูตร 2 จัดสำหรับผู้ติดเชื้อที่มีอาการเล็กน้อย ให้ดื่มได้ตามความสมัครใจ 1 ซอง / 1 มื้อ เช้า - เย็น โดย แพทย์แผนจีนธนัตเทพ เตระทวีดุลย์ ได้กล่าวถึงตัวยาสมุนไพรแพทย์แผนจีนหลักที่ใช้เป็นยาบำรุงว่า มี 3 ชนิดด้วยกัน ได้แก่ "ปักคี้" ที่มีรสหวาน สรรพคุณบำรุงปอด และลดอาการบวม "ไป๋จู๋" ที่มีรสขมและหวาน บำรุงม้าม ขับปัสสาวะ และระงับเหงื่อ และ"ฝางเฝิง" ที่มีรสเผ็ดและหวาน บำรุงตับ ระงับปวด และป้องกันไข้หวัด              โดยยาสมุนไพรแพทย์แผนจีนทั้ง 3 ชนิดนี้รวมกันเป็นตำรับ "ยวี่ผิงเฟิงซ่าน" ซึ่งเป็นตำรับยาที่มีใช้มาอย่างยาวนาน โดยเป็นยาที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน กระตุ้นระบบย่อยอาหารบำรุงปอด และม้าม มีฤทธิ์ขับพิษอ่อนๆ ส่วนยาเพื่อการรักษาควรจัดโดยแพทย์แผนจีนเท่านั้น ไม่ควรหามารับประทานเอง             แพทย์แผนจีน ธนัตเทพ เตระทวีดุลย์ ได้กล่าวให้รายละเอียดเพิ่มเติมถึงการใช้ยาสมุนไพรแพทย์แผนจีน ควบคู่กับยาสมุนไพรแพทย์แผนไทยว่าสามารถทำได้ โดยยาสมุนไพรบางชนิดที่ใช้ทั้งในแพทย์แผนจีนและแพทย์แผนไทยก็มี เช่น ดอกคำฝอย (หงฮวา) ชะเอมเทศ (กำเช่า) โกฐเชียง (ตังกุยเหว่ย) ฯลฯ ส่วนยาที่ไม่ควรรับประทานร่วมกันก็มี เช่น ยาสมุนไพรแพทย์แผนจีน "เหลียนฮัวชิงเวินเจียวหนัง" ซึ่งที่มีฤทธิ์เย็นใช้รักษาโรค COVID-19 หากรับประทานร่วมกับยาสมุนไพรแพทย์แผนไทย "ฟ้าทะลายโจร" ซึ่งใช้รักษาโรคCOVID-19 และมีฤทธิ์เย็นเช่นเดียวกัน ในผู้ป่วยบางรายที่มีอาการไข้ไม่สูงมาก จะทำให้ร่างกายเกิดความเย็นที่มากจนเกินไป เป็นต้น ทั้งนี้ ควรปรึกษาเภสัชกร หรือแพทย์แผนจีนก่อนการรับประทานยาทุกครั้ง             เพื่อประโยชน์ต่อประชาชนในวงกว้าง ในเร็ววันนี้จะได้มีการเผยแพร่สูตรสมุนไพรยาแพทย์แผนจีนทั้ง 2 สูตรของศูนย์การแพทย์มหิดลบำรุงรักษ์ จังหวัดนครสวรรค์ ทางFacebook : "ศูนย์การแพทย์มหิดลบำรุงรักษ์ จังหวัดนครสวรรค์" และ "แผนกแพทย์แผนจีน ศูนย์การแพทย์มหิดลบำรุงรักษ์ จังหวัดนครสวรรค์" ต่อไป โดยประชาชนผู้สนใจสามารถติดตามและสอบถามรายละเอียดได้ทาง inbox ของทั้ง 2 เพจดังกล่าว
ทูตพาณิชญี่ปุ่นขานรับนโยบาย ‘จุรินทร์’ เผย Smart Textiles  อนาคตใหม่ของสินค้าสิ่งทอในญี่ปุ่นโต คาดการกว่า 2000% มูลค่าสูงถึง 6.5 พันล้านบาท  ในปี 2030  แนะผู้ประกอบการสิ่งทอไทยติดตามวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีหวังเพิ่มโอกาสแข่งขันเวทีโลก             นางสาวพรรณณี สุวรรณธุปินตัน ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮิโรชิมา เปิดเผยว่า  รัฐบาลญี่ปุ่นมองเห็นความสำคัญของ Smart Textiles ว่าเป็นสินค้าใหม่ที่จะเป็นหนึ่งในแกนสำคัญของการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น  โดยจะเป็นการปฏิวัติขนานใหญ่ของแนวคิดเกี่ยวกับสินค้าสิ่งทอที่เคยมีมา สำนักงานฯจึงได้ติดตามและหาช่องทางการขยายการส่งออกตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิช ในฐานะเซลล์แมนประเทศ             Smart Textiles (สิ่งทออัจฉริยะ) ที่มีความล้ำยุคทางเทคโนโลยี ซึ่งทำหน้าที่ได้หลากหลายต่างไปจากผลิตภัณฑ์สิ่งทอที่เคยมีมา ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้  ตั้งแต่ในทศวรรษ 1980  ได้เริ่มมีการนำอุปกรณ์แสดงแสงสีติดเข้ากับเสื้อผ้า และพัฒนาเรื่อยมาจนในที่สุดสามารถทำให้วัสดุสิ่งทอเป็นสื่อส่งกระแสไฟฟ้าได้              ในปี 2017 METI ได้จัดตั้ง “กลุ่มศึกษาเกี่ยวกับการยกระดับคุณภาพชีวิตโดยการใช้เครื่องมือดิจิทัล เช่น IoT ในสินค้าสำหรับชีวิตประจำวัน” โดยมีจุดประสงค์เพื่อการรวบรวมข้อมูลสถานะปัจจุบันของสาขาดิจิทัล โดยเฉพาะ...
การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2020 ที่กรุงโตเกียวนับว่าเป็นมหกรรมกีฬาของมวลมนุษยชาติที่ค่อนข้างแปลกกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ช่างเป็นการแข่งขันกีฬาที่เงียบเหงา เพราะคณะผู้จัดงานไม่ได้เปิดให้สาธารณะชนเข้าร่วมชมเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ซึ่งน่าจะอยู่กับพวกเราไปอีกช่วงเวลาหนึ่ง                เทคโนโลยี 5G จะนำความเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาลมายังทุกภาคส่วนในสังคม รวมทั้งวงการกีฬา เพราะเทคโนโลยี 5G สามารถรองรับการใช้งาน Digital Application, Video on Demand และ Immersive User Experience (ประสบการณ์การรับชมที่เสมือนจริงและล้ำลึก) เรากำลังก้าวเข้าสู่โลกของการดูกีฬาที่ใกล้ชิด พร้อมพรั่งด้วยข้อมูลเชิงลึกเพียงปลายนิ้วสัมผัส และ Interactive สุด ๆ ไม่ว่าแฟนกีฬาเหล่านั้นจะเข้าชมที่สนามหรือดูจากที่บ้าน                มีการคาดการณ์ว่าผู้บริโภคไม่น้อยกว่า 300 ล้านคนทั่วโลกจะปรับเปลี่ยนเข้าใช้งานเทคโนโลยี 5G ภายในปี 2564 นี้ โดยในรายงาน ConsumerLab ที่จัดทำขี้นโดยบริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยีสื่อสารอย่างอีริคสันได้วิเคราะห์ถึงแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคว่า ผู้ใช้งานเทคโนโลยี 5G จะใช้เวลาเพิ่มเติมอีก 2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในการรับชมวิดีโอความคมชัดระดับ HD ผ่านมือถือ และอีก...
หนึ่งใน Food Tech ที่กำลังอยู่ในกระแสบริโภคอย่างโปรตีนทางเลือก ถือว่าเติบโตโดดเด่นในช่วง   1-2 ปีที่ผ่านมา โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วโลกที่ตื่นตัวกับการเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพ การตระหนักถึงการบริโภคที่คำนึงถึงผลกระทบของสิ่งแวดล้อม แรงงานและสวัสดิภาพสัตว์ รวมถึงความกังวลต่อปัญหาความมั่นคงทางอาหาร (Food Security) นอกจากนี้ ภายใต้สถานการณ์การระบาดของ โควิด-19 ที่ผู้บริโภคค่อนข้างกังวลต่อความปลอดภัยจากการบริโภคเนื้อสัตว์ (ที่อาจพบการปนเปื้อน รวมถึงโรคต่างๆ ที่มาจากสัตว์) รวมถึงภาวะขาดแคลนเนื้อสัตว์ในระยะสั้นจากระบบการผลิตที่หยุดชะงัก ยังส่งผลให้โปรตีนทางเลือกมีโอกาสทำตลาดได้มากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา             ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ตลาดโปรตีนทางเลือกในไทยน่าจะเติบโตได้จากการเข้าถึงสินค้าที่ง่ายของผู้บริโภคผ่านหลากหลายช่องทางการจำหน่าย บวกกับความต้องการที่มาจากกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการลดการบริโภคเนื้อสัตว์และกลุ่ม Flexitarian ที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี ในภาวะที่เศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคยังเปราะบางจากการระบาดของโควิดที่ยังรุนแรง ประกอบกับความหลากหลายของอาหารทั้งประเภทและราคาที่มีให้เลือกเยอะและอาจทดแทนกันได้ ก็น่าจะมีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้ออาหารในกลุ่มโปรตีนทางเลือกของผู้บริโภค ซึ่งปัจจุบันมีราคาเฉลี่ยที่สูงกว่าโดยเปรียบเทียบ             ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า ปี 2564 ตลาดโปรตีนทางเลือกที่มาจากนวัตกรรมอาหารใหม่น่าจะมีมูลค่าประมาณ 4,500 ล้านบาท และมีแนวโน้มขยายตัวเฉลี่ย 8% ต่อปีในระยะ 3 ปีข้างหน้า โดยการขับเคลื่อนตลาดน่าจะมาจากผู้ประกอบการรายใหญ่มากกว่า SMEs จากความได้เปรียบเรื่องศักยภาพในการผลิตและช่องทางการจำหน่าย ซึ่งหาก SMEs...
สนค.เผยแนวโน้ม “แฟชั่นหมุนเวียน” กำลังขยายตัวต่อเนื่อง หลังผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการปกป้องสิ่งแวดล้อม ลดการใช้ทรัพยากร แนะผู้ผลิต ผู้ส่งออกปรับตัว เพิ่มโอกาสในการทำตลาด             นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สนค. ได้ทำการศึกษาแนวโน้มตลาดของสินค้าต่าง ๆ ตามนโยบายที่ได้รับจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้นำมาแจ้งทิศทางและช่วยแนะนำให้ผู้ผลิต ผู้ส่งออกของไทยได้มีการปรับตัว และเพิ่มโอกาสในการทำตลาด โดยได้ทำการศึกษาแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ในอุตสาหกรรมแฟชั่น ซึ่งพบว่าแนวคิดแฟชั่นหมุนเวียน (Circular Fashion) กำลังเป็นที่นิยมที่นำมาใช้ในการวางแผนและออกแบบการผลิตเพื่อลดการเกิดของเสียและมลพิษ การผลิตเสื้อผ้าจากวัสดุที่ปลอดภัยและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ การเพิ่มระยะเวลาใช้งานเสื้อผ้า รวมทั้งการนำเสื้อผ้าเก่ามาผลิตเป็นเสื้อผ้าใหม่ เกิดการหมุนเวียนเป็นวงจรต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ทรัพยากรได้อย่างสูงสุด             ทั้งนี้ นอกจากผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินธุรกิจของอุตสาหกรรมแฟชั่นแล้ว สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน เพราะการที่ร้านค้าต้องปิดตัวลง ผู้คนต้องทำงานที่บ้าน และลดการใช้ชีวิตทางสังคม ทำให้ยอดการจำหน่ายเสื้อผ้าลดลง ซึ่งผลการสำรวจข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคทั่วโลกในปี 2563 ระบุว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคมีรายได้ลดลง...

สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) แนะภาคธุรกิจให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม รับนโยบาย BCG Model ที่รัฐบาลขับเคลื่อนเป็นวาระชาติ เผยทั่วโลกยังให้ความสำคัญต่อการรักษาสิ่งแวดล้อม แถมคนรุ่นใหม่เน้นสินค้าและบริการที่ปกป้องสิ่งแวดล้อม ชี้จะเป็นตลาดที่สำคัญในอนาคต             นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สนค. ได้ทำการศึกษานโยบายด้านการปกป้องสิ่งแวดล้อม ตามนโยบายนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยพบว่านานาประเทศให้ความสำคัญต่อการรักษาสิ่งแวดล้อมโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง             ขณะที่ไทยได้มีความพยายามที่จะขับเคลื่อน SDGs ด้วยเช่นกัน โดยมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ที่มีสำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักในการสนับสนุนการดำเนินการ และเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2564 นายกรัฐมนตรียังได้ประกาศให้เศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG Model) เป็นวาระแห่งชาติอีกด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องนี้ จึงเป็นเรื่องที่ภาคธุรกิจจะต้องให้ความสำคัญ               นอกจากนี้ ยังพบว่านอกเหนือจากความพยายามของภาครัฐ ประชาชนทั่วไปก็เริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมและหันมาให้ความสนใจต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เช่น ผลการสำรวจของบริษัท Nielsen ในปี 2560 ระบุว่าผู้บริโภคทั่วโลกมีการปรับพฤติกรรมในการเลือกซื้อสินค้า...

รายงานผลการวิจัยตลาดขนมขบเคี้ยวและของทานเล่นจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครชิคาโก สหรัฐฯ ที่ทำการศึกษาวิจัยโดยบริษัท Global Market Insights Inc. ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยและที่ปรึกษาด้านการตลาดในสหรัฐฯ พบว่าตลาดสินค้าของทานเล่นที่ทำด้วยผลไม้ (Fruit Snacks) ในตลาดภูมิภาคอเมริกาเหนือ จะมีมูลค่าถึง 18,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2569 และอัตราการเติบโตต่อปีร้อยละ 3.6 ในช่วงระหว่างปี 2563-2569 จึงเป็นโอกาสสำหรับการส่งออกของทานเล่นที่ทำด้วยผลไม้ของไทย เพราะเป็นประเทศที่ผลิตผลไม้เมืองร้อนที่สำคัญของโลก หากวางแผนการผลิตได้ตรงตามความต้องการของตลาด ก็จะทำให้ไทยมีโอกาสส่งออกผลไม้แปรรูปไปยังตลาดสหรัฐฯ ได้เพิ่มขึ้น สำหรับสินค้าที่ผู้บริโภคนิยมรับประทาน จะเน้นของทานเล่นชนิดที่ทำจากผลไม้ชนิดที่มีไฟเบอร์สูง ให้แคลรอรี่ต่ำ มีปริมาณน้ำตาลน้อย ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน ความดัน และโรคหัวใจ โดยผลิตภัณฑ์ของทานเล่นที่ทำด้วยผลไม้ที่จำหน่ายในตลาดภูมิภาคอเมริกาเหนือมีหลายรูปแบบ แยกออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ ชนิดดัดแปลง เปลี่ยนโฉม เช่น ผลไม้ที่นำไปแปรรูปเป็นเกลียว (Fruit Twists) , ผลไม้ที่นำไปแปรรูปเป็นแผ่น (Hot Extruded...
กลุ่มบริษัทเอไอเอ เผยรายงานการสำรวจผลกระทบของโรคโควิด 19 ที่มีต่อการออมในภาคครัวเรือน โดยเปิดเผยว่า คนไทยได้รับผลกระทบต่อรายได้และสถานะทางการเงินมากกว่าอีก 7 ประเทศที่ทำการสำรวจในครั้งนี้             จากผลการสำรวจพบว่าร้อยละ 82 ของคนไทยจำนวน 1,000 คนกล่าวว่า รายได้ของพวกเขาได้รับผลกระทบในทางลบเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในภูมิภาคที่อยู่ราวร้อยละ 66 และร้อยละ 79 รู้สึกว่า สถานการณ์โควิด 19 ส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของพวกเขา ในขณะที่ผลจากการสำรวจในทุกประเทศอยู่ที่ร้อยละ 64  นอกจากนี้ รายได้เฉลี่ยในประเทศไทยลดลงสูงกว่าประเทศอื่น ๆ อยู่ที่ร้อยละ 33 และอีกร้อยละ 22 ของผู้ตอบแบบสอบถามรายงานว่า รายได้ของตนลดลงมากกว่าครึ่งหนึ่งจากรายได้เดิม              AIA Save Smarter Study 2021 ได้ทำการสำรวจผู้เอาประกันภัยทั้งสิ้น 7,400 คนที่มีอายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป ในภูมิภาคเอเชียรวม 8 แห่ง ประกอบด้วยจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง อินโดนีเซีย มาเลเซีย...
“ผอ.สศค” เผย! เตรียมคุยออนไลน์ฟู้ดเดลิเวอรี่ ดึงร่วม “คนละครึ่ง” ภายใน ก.ค.นี้ ยกเว้น! รายที่มีปัญหา ระบุ! รอเจรจาค่า GP เหตุมีการโปรโมทให้ร้านค้าและไรเดอร์ ด้าน “ร้านอาหาร-ฟู้ดเดลิเวอรี่” ประสานเสียงหนุนรัฐปลดล็อก จ่ายคนละครึ่งผ่านแอปฯซื้ออาหาร-เครื่องดื่ม ชี้! หลังรัฐสั่งล็อกดาวน์ ยอดขายตก 30-40% จี้! เร่งคลังเดินเครื่อง ก่อนหมดโปรฯโครงการรัฐ             น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวถึงกรณีฟู้ดเดลิเวอรี่ต้องการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งของรัฐบาล ว่า ล่าสุด ได้หารือกับผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่ (Food Delivery) อย่างไม่เป็นทางการ 2 ราย จากผู้ให้บริการทั้งหมด 4 ราย โดยผู้ให้บริการยินดีที่จะเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งอย่างไม่มีปัญหา ยกเว้นผู้ให้บริการหนึ่งราย ยังไม่ตอบข้อหารือของสศค. หลังจากที่ส่งจดหมายอย่างเป็นทางการ           สศค.เชิญฟู้ดเดลิเวอรี่หารือออนไลน์ :             “สศค.จะไม่ตัดสิทธิผู้ให้บริการรายใดออกไป แต่ต้องการทำให้ทุกอย่างถูกต้องตามเงื่อนไขของโครงการคนละครึ่ง ซึ่งเป็นการชำระเงินระหว่างกันโดยตรงไม่ผ่านตัวกลาง(Face...