Sparkle เปิดตัว “หลิงหลิง คอง” พรีเซนเตอร์คนใหม่ ตอกย้ำจุดยืนผู้นำยาสีฟันเพื่อฟันขาว พร้อมอัดกลยุทธ์รุกตลาด Gen Y & Gen Z

222

สปาร์คเคิล (SPARKLE) แบรนด์ผู้นำตลาดยาสีฟันเพื่อฟันขาวในประเทศไทย เร่งเครื่องเดินธุรกิจปี 2025 รับตลาด Oral Care เติบโตต่อเนื่อง ด้วยแผนรีเฟรชภาพลักษณ์แบรนด์ให้ทันสมัย หวังขยายฐานผู้บริโภคในกลุ่ม Gen Y และ Gen Z มากยิ่งขึ้น ประกาศแต่งตั้ง หลิงหลิง คอง ขึ้นแท่นเป็นพรีเซนเตอร์คนใหม่อย่างเป็นทางการ ตั้งเป้าเติบโตมากกว่า 20% ภายในสิ้นปี พร้อมตอกย้ำตำแหน่งแบรนด์ชั้นนำในตลาดยาสีฟันกลุ่มไวท์เทนนิ่งอย่างต่อเนื่อง

เทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ : ยาสีฟันไม่ใช่แค่ของใช้ประจำวัน แต่เป็นไอเทมเพื่อเพิ่มความมั่นใจ เสริมบุคลิกภาพ  ยาสีฟันไวท์เทนนิ่งเติบโตสองหลัก

นางสาวนันทวรรณ สุวรรณเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากในประเทศไทยมีมูลค่ารวมกว่า 17,160 ล้านบาทในปี 2024 โดยเฉพาะตลาดยาสีฟันที่มีมูลค่าสูงถึง 9,357 ล้านบาท เติบโตขึ้นประมาณ 7.4% และคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องในปี 2025 ถึง 8.3%

การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก เกิดจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์ “พรีเมียม” และ “มัลติฟังก์ชัน” ซึ่งตอบโจทย์ทั้งความสะอาดของช่องปาก ความขาวของฟัน ลมหายใจหอมสดชื่น เพื่อเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดีและเพิ่มความมั่นใจ ผู้บริโภคเริ่มมองว่ายาสีฟันไม่ใช่แค่ของใช้ในห้องน้ำ แต่เป็นส่วนหนึ่งของบิวตี้รูทีนและไลฟ์สไตล์สุขภาพที่ต้องใส่ใจเหมือนสกินแคร์หรือเมคอัพ

เจาะลึกเทรนด์ตลาดยาสีฟัน ตลาดยาสีฟันสมุนไพรหรือยาสีฟันธรรมชาติได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยมีสัดส่วนถึง 37% เติบโตต่อเนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับส่วนผสมออร์แกนิกและส่วนผสมจากธรรมชาติ ปลอดสารเคมี และด้วยแนวโน้มประชากรกลุ่มผู้สูงวัยของประเทศไทยที่กำลังขยายตัวจึงทำให้ยาสีฟันสมุนไพรมีแนวโน้มเติบโตขึ้น

ขณะเดียวกัน “ยาสีฟันเพื่อฟันขาว” มีสัดส่วน 11% แต่มีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก ทุกปี เพราะคนไทยให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์และบุคลิกภาพมากขึ้น ฟันขาวจึงกลายเป็นอีกหนึ่ง “อาวุธลับของการเสริมความมั่นใจ”

Sparkle เป็นแบรนด์ชั้นนำที่ครองใจคนไทยในตลาดยาสีฟันเพื่อฟันขาว

ยาสีฟันสปาร์คเคิลเป็นหนึ่งในแบรนด์ยาสีฟันที่ครองใจคนไทยมานาน โดดเด่นด้วยคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ทั้งการช่วยให้ฟันขาว เสริมความมั่นใจ และยกระดับการดูแลสุขภาพช่องปาก โดยแบรนด์สปาร์คเคิลพร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนการเติบโตในตลาดพรีเมียม ด้วยผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากที่มีคุณภาพสูงและนวัตกรรมล้ำหน้าโดยปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ยาสีฟันที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ได้แก่ กลุ่มยาสีฟันเพื่อฟันขาว (Whitening  Segment) ด้วยนวัตกรรม Micro White Silica เอกสิทธิ์เฉพาะของสปาร์คเคิล ผงขัดอณูละเอียด ช่วยขจัดคราบพลัคโดยไม่ทำลายสารเคลือบฟัน ทำให้แบรนด์ยาสีฟันสปาร์คเคิลมีความโดดเด่นเรื่องของช่วยอัพฟันขาวไบรท์ โดยมีสินค้าให้เลือก 5 สูตร ได้แก่ Fresh White, Triple White, Coffee & Tea, Lemon Soda, และ Instant white ยาสีฟันม่วง และล่าสุดทางสปาร์คเคิลจับกระแสการเติบโตของตลาด กลุ่มยาสีฟันธรรมชาติและสมุนไพร (Natural & Herbal) โดยมีการออกสินค้าใหม่คือ สปาร์คเคิลเนเชอรัล พรอพโพลิส ยาสีฟันผสาน 3 พลังธรรมชาติอย่าง Propolis, Manuka Honey, และ Royal Jelly ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียและคราบพลัค เพื่อยกระดับสุขภาพช่องปากที่ดี โดยคาดหวังว่าแบรนด์จะเติบโตมากขึ้นในกลุ่ม  ยาสีฟันธรรมชาติและสมุนไพร 

ดึง “หลิงหลิง คอง” เป็นพรีเซนเตอร์ เพื่อสร้างฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ๆโดย เข้าถึงกลุ่ม Gen Y และ Gen Z

แม้ตลาดผลิตภัณฑ์ยาสีฟันในประเทศไทยจะมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีการแข่งขันที่สูงขึ้น สปาร์คเคิลจึงวางกลยุทธ์ในการปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ดูทันสมัย และเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นอย่าง Gen Y และ Gen Z มากขึ้น เป้าหมายเพื่อขยายฐานลูกค้าของแบรนด์มากยิ่งขึ้น โดยดึงนักแสดงชื่อดังระดับเอเชีย อย่าง “หลิงหลิง คอง” มาร่วมเป็นพรีเซนเตอร์คนใหม่     

“หลิงหลิง คอง” เป็นนักแสดงสาวที่มีฐานแฟนทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีภาพลักษณ์สวยเฉียบ ฟันขาว ออร่า และรอยยิ้มสดใส ถือเป็นตัวแทนของผู้หญิงยุคใหม่ที่มีทั้งความมั่นใจ มีคลาส แต่เข้าถึงง่าย สอดคล้องกับดีเอ็นเอของแบรนด์ Sparkle ได้อย่างลงตัว การเลือกหลิงหลิงมาร่วมเป็นพรีเซนเตอร์ครั้งนี้ จึงเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์ที่พร้อมปรับตัวและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่”

นอกจากนี้ Sparkle มีการจัดกิจกรรม Lucky Fans กับ หลิงหลิง คอง เพื่อสร้างความผูกพันระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยกิจกรรมนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างประสบการณ์ที่มีคุณค่าและน่าจดจำ เสริมความภักดีและสร้างฐานผู้ใช้ใหม่ในกลุ่ม Gen Y และ Gen Z สร้างความผูกพันระยะยาวกับแฟนคลับของแบรนด์ ซึ่งจะทำให้ Sparkle ไม่ใช่แค่แบรนด์ยาสีฟัน แต่เป็นเพื่อนคู่ใจในชีวิตประจำวัน เปลี่ยนจากแฟนเป็นครอบครัวแบรนด์ พร้อมสร้างประสบการณ์ความผูกพันที่มากกว่าแค่ผู้ซื้อแต่เพิ่มความภักดีต่อแบรนด์ในระยะยาว

ตั้งเป้าโตกว่า 20% ปี 2025 ด้วยแบรนด์ที่เข้าใจผู้บริโภคมากขึ้น

จากการดำเนินงานตามแผนงานที่วางไว้ Sparkle คาดการณ์ว่าภายในสิ้นปี 2025 บริษัทฯ จะมียอดจำหน่ายภายใต้แบรนด์ Sparkle เพิ่มขึ้นมากกว่า 20% โดยมีผลิตภัณฑ์ยาสีฟันเป็นเรือธงในการผลักดันยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมาย พร้อมกันนี้จะยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์และแผนการตลาดใหม่ ๆ ที่สอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคอยู่ตลอดเวลา นางสาวนันทวรรณ กล่าว

หมายเหตุ : แหล่งที่มาข้อมูล  Euromonitor และ NielsenNIQ Thailand