ตัวแทนภาครัฐและเอกชนประสานเสียงบนเวที Blue Carbon Conference 2022 ชี้ “ชุมชน” คือพลังสำคัญของการปลูกป่าชายเลนอย่างยั่งยืน เพื่อเป็นแหล่งอาหาร แหล่งท่องเที่ยว ลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อน และสร้างมั่นคงทางรายได้ให้คนในชุมชน
เมื่อเร็วๆ นี้ กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) ร่วมกับ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) และองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) จัดเสวนาร่วมกับองค์กรภาคีเครือข่าย ภายใต้โครงการ Dow & Thailand Mangrove Alliance ในงาน Blue Carbon Conference 2022 “คาร์บอนทะเล: หนุนธุรกิจสู่ Net Zero เสริมระบบนิเวศและชุมชน” โดยมีตัวแทนจากภาครัฐและเอกชนมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ความสำเร็จในการฟื้นฟูและบริหารจัดการพื้นที่ป่าชายเลนในประเทศไทย
นายขยาย ทองหนูนุ้ย ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลน สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 ได้ถ่ายทอดประสบการณ์การปลูกป่าชายเลนที่จังหวัดระนองใน 2 โครงการสำคัญ คือ...
บมจ. หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) หรือ MST ผู้นำด้านการลงทุน ถือหุ้นโดย เมย์แบงก์ ธนาคารอันดับ 1 ของมาเลเซีย เปิดเผยมุมมองต่อการบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนเพื่อรับมือกับสถานการณ์โลกในปี 2566 โดยอ้างอิงข้อมูลด้านผลตอบแทนการลงทุนที่ผ่านมา โดยแนะให้นักลงทุนพิจารณาถึงความสำคัญของการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน ผ่านทรรศนะของ 2 นักวางแผนการลงทุนจาก บีเอ็นวาย เมลลอน (BNY Mellon) และ เมย์แบงก์ ประเทศไทย
คาร์เรน ชาง Head of Asia ex Japan Client Solutions บีเอ็นวาย เมลลอน ที่ปรึกษาการลงทุนระดับโลกและพันธมิตรของเมย์แบงก์ ประเทศไทยเปิดเผยว่าพอร์ตการลงทุนแบบ 60/40 เป็นที่นิยมใช้กันแพร่หลายทั่วโลก จนกลายเป็นมาตรฐานของการจัดสรรพอร์ตการลงทุน อย่างไรก็ตาม ปี 2565 เป็นปีที่ไม่ปกติที่ทั้งตลาดตราสารทุนและตลาดตราสารหนี้ ให้ผลตอบแทนที่เป็นลบค่อนข้างมาก กลยุทธ์จัดพอร์ต 60/40 ให้ผลตอบแทนที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี...
เฉลิมฉลองครบรอบหนึ่งปีของโครงการรณรงค์ “พลังของคำว่าไม่” เพื่อต่อสู้กับปัญหาเมาแล้วขับของคนหนุ่มสาวในประเทศไทย
โครงการรณรงค์ทางดิจิทัลใหม่ที่สร้างสรรค์นี้เข้าถึงคนหนุ่มสาวกว่า 39 ล้านคนทั่วภูมิภาคอาเซียน โครงการนี้นำโดยพันธมิตรจากหลากหลายภาคส่วนซึ่งมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ทั้งจากองค์กรในชุมชน ธุรกิจ สมาคม และรัฐบาล รวมกว่า 28 หน่วยงาน
คนรุ่นใหม่กำลังรวมตัวกันเพื่อปกป้องโลกของเรา ผู้คน รวมถึงอนาคตของพวกเขาด้วย ในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติเพื่อลดอัตราการเสียชีวิตและการบาดเจ็บที่เกิดจากอุบัติเหตุบนท้องถนน 50% ภายในปี 2030 คนรุ่นใหม่จะต้องร่วมกันแก้ไขปัญหา
ทราบหรือไม่ว่า: อุบัติเหตุบนท้องถนนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้คร่าชีวิตผู้คน 2,000 คนทุกวัน
ทราบหรือไม่ว่า: 34% ของการบาดเจ็บที่เกิดจากอุบัติเหตุบนท้องถนนของผู้ชายในประเทศไทยและ 15% ของการบาดเจ็บที่เกิดจากอุบัติเหตุบนท้องถนนของผู้หญิงในประเทศไทยมีสาเหตุจากแอลกอฮอล์
รายงานขององค์การอนามัยโลกได้เปิดเผยว่าการบาดเจ็บที่เกิดจากอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้คนอายุระหว่าง 5-29 ปีเสียชีวิต เป็น “เหตุการณ์ที่ลุกลามอย่างเงียบๆ” และสร้างความเสียหายให้กับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาหลายทศวรรษแล้ว อุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่โดยมากสามารถป้องกันได้
ปัจจุบัน คนหนุ่มสาว ซึ่งมีสัดส่วนประมาณหนึ่งในห้าของประชากรทั้งหมด เป็นผู้ใช้ท้องถนนส่วนใหญ่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งหมายความว่า คนหนุ่มสาวมีอำนาจที่จะยกระดับความปลอดภัยบนท้องถนน
ปัจจัยหลักคือการรับมือกับปัญหาเมาแล้วขับ คนหนุ่มสาวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เสี่ยงที่จะเมาแล้วขับมากที่สุด และเสี่ยงที่จะเมาแล้วขับมากกว่าประชากรทั่วไป 6 เท่า
ทวงคืนอำนาจของคุณในการ “ไม่” เมาแล้วขับ
มีการเปิดตัวโครงการรณรงค์ “พลังของคำว่าไม่” เพื่อเพิ่มความตระหนักรู้ให้แก่ประชาชนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์...
บทเรียนด่านตำรวจตรวจดาราไต้หวันเจอบุหรี่ไฟฟ้า สสส.และภาคีประชุมระดมความเห็นสื่อมวลชนถกแก้ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า หมอประกิตเผยมีทั้งนิโคตินและโลหะหนักก่อโรคหลอดเลือดและหัวใจ บางยี่ห้อมีสารนิโคตินเท่ากับสูบบุหรี่ 50 มวน ผลวิจัยเผยเด็กที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าเสี่ยงที่จะสูบบุหรี่มวนมากกว่าคนไม่สูบ 2-4 เท่า ด้านสคบ.แฉบุหรี่ไฟฟ้าทะลักเข้าตามแนวชายแดน ต้องจัดการผู้นำเข้ารายใหญ่ เคยบุกจับตลาดคลองถม 13 ครั้งจับเท่าไรก็ไม่หมด เตรียมใช้กฎหมายฟอกเงินจัดการกับผู้นำเข้า ด้านสื่อเรียกร้องเพิ่มข้อมูลด้านลบเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า และรัฐต้องจัดการผู้นำเข้าอย่างจริงจัง
มูลนิธิสื่อเพื่อสุขภาวะ(มสส.)ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) จัดประชุมโฟกัสกรุ๊ปเรื่อง "สางปม บุหรี่ไฟฟ้า... หลากปัญหา รอวันแก้" เมื่อวันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 ณ โรงแรมแกรนด์ ฟอร์จูน กรุงเทพ รัชดา โดยมี นายวิเชษฐ์ พิชัยรัตน์ สื่อมวลชนอาวุโส เป็นผู้ดำเนินรายการ
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่ากฎหมายไทยกำหนดให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าต้องห้ามทั้งการนำเข้า จำหน่ายหรือให้บริการ ในปี 2564 มี 32 ประเทศทั่วโลกที่ประกาศใช้กฎหมายห้ามเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าจากที่ในปี 2557 มีเพียง 13...
ชูศักยภาพเหนือชั้นเกาะสวรรค์แห่งอันดามัน เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน-เมกะโปรเจ็กต์ พร้อมสร้างมูลค่าให้นักลงทุนอสังหาฯ และดีเวลอปเปอร์ไทย-ต่างชาติ
ในช่วงที่ผ่านมา “ภูเก็ต” เมืองท่องเที่ยวยอดฮิตของไทย ได้โชว์ศักยภาพในการเติบโตด้านการท่องเที่ยวตลอดปี 2565 มีนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติมาเยือนเกาะภูเก็ตมากถึง 5,628,483 ราย(เป็นชาวต่างชาติทั้งสิ้น 3,320,217 ราย) โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติได้สร้างรายได้ให้แก่ภูเก็ตถึง 176,675.17 ล้านบาท ถือเป็นสัญญาณบวกที่ดีต่อภาคการท่องเที่ยว และคาดว่าจะส่งผลดีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยที่จะเริ่มกลับมาขยับฟื้นตัว ในปี 2566
คุณเศรษฐพล บุตรโท กรรมการบริหาร โครงการมอนท์เอซัวร์ อาณาจักรที่อยู่อาศัยในสไตล์รีสอร์ตหรูเหนือระดับ บนพื้นที่กว่า 454 ไร่ ตั้งแต่ทิวเขาทอดยาวจรดชายหาดกมลา ที่มีทัศนียภาพอันงดงามยามอาทิตย์อัสดงของภูเก็ต กล่าวว่า “ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพอันเต็มเปี่ยมของภูเก็ตในทุก ๆ มิติ ทั้งสำหรับภาคเอกชนและภาครัฐ ทั้งยังเป็นการยืนยันว่าภูเก็ตเป็นจุดหมายที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวระดับโลกที่เพียบพร้อมด้วยโครงสร้างพื้นฐาน เมกะโปรเจ็กต์ และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ที่ช่วยดึงดูดเม็ดเงินทุน หลังจากที่นักลงทุนเห็นการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของเมืองหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย” นายเศรษฐพล เห็นว่า ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตเป็นที่น่าจับตามอง และหลังจากนี้จะมีการทยอยเปิดตัวโปรเจ็กต์ลักชูรีอีกหลายโครงการด้วยกัน
โปรเจ็กต์โครงสร้างพื้นฐานหนุนการเติบโตของภูเก็ต
โครงการขยายสนามบินนานาชาติภูเก็ตเฟส 3 ถือเป็นการเสริมโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของภูเก็ต คาดการณ์ว่าเทอร์มินัล 3 ที่จะเปิดขึ้นใหม่...
หากถามนักลงทุนไทยถึงการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ตลาดเวียดนาม ยังคงเป็นคำตอบที่นักลงทุนส่วนมากให้ความสนใจ ถึงที่ผ่านมาจะมีทั้งช่วงสดใส และช่วงที่ทำให้ใจหล่นตุ๊บ แต่ยังคงเป็น “ดาวรุ่ง” สำหรับการลงทุนระยะยาว อย่างไรก็ตาม การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ อย่างเช่นเวียดนาม ต้องอาศัยข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อการตัดสินใจที่แม่นยำ เมย์แบงก์จึงจัดงานสัมมนาสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ในหัวข้อ “จับตาตลาดหุ้นเวียดนาม ปี 2023 VIETNAM in FOCUS” ครั้งแรกที่นักลงทุนชาวไทยได้รับฟังข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญที่รู้ลึกรู้จริง จากตลาดเวียดนาม พร้อมคัดสรรตัวเลือกที่น่าจับตาเพื่อนักลงทุนโดยเฉพาะ
งานนี้เมย์แบงก์ได้ชวน 3 ผู้รอบรู้ในตลาดหุ้นต่างประเทศมาร่วมกันวิเคราะห์ตลาดเวียดนามร่วมกันอย่างออกรส เปิดฉากด้วยสถานการณ์ตลาดเวียดนาม ที่ Mr. Quan Trong Thanh - Head of Research, Maybank Securities Ltd. (Vietnam) ในฐานะ “กูรูตัวจริง” ได้อธิบายย้อนถึงวิกฤติในช่วงปลายปี 2022 ที่ทำให้นักวิเคราะห์ด้านการลงทุนของเวียดนามยังต้องกุมขมับจากการทรุดตัวลงของตลาด และไม่สามารถคาดการณ์สิ่งใดได้ จนตลาดเหวี่ยงตัวกลับขึ้นมาได้เอง ซึ่งคาดการณ์ได้ว่าอาจมาจากพฤติกรรมการลงทุนของรายย่อยที่มักจะอ่อนไหว เทขายเมื่อไม่แน่ใจ และกลับมาซื้อใหม่เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น...
บทความโดย เบิร์น เอลเลียต รองประธานฝ่ายวิจัย การ์ทเนอร์ อิงค์
ไม่นานมานี้ OpenAI บริษัทวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้เปิดตัว ChatGPT แพลตฟอร์มสนทนา AI รูปแบบใหม่อย่างเป็นทางการ จากข้อมูลของบริษัทฯ ระบุว่ารูปแบบการสนทนาที่จัดทำโดยแพลตฟอร์มนี้ทำให้ ChatGPT สามารถ “ตอบคำถามได้ครอบคลุม ยอมรับข้อผิดพลาด พร้อมนำเสนอข้อมูลใหม่ ๆ เพื่อปรับเปลี่ยนข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง และปฏิเสธคำร้องขอที่ไม่สมเหตุสมผล”
นับตั้งแต่ ChatGPT เปิดให้บริการ บนโลกโซเชียลมีเดียก็มีการถกเถียงกันถึงความเป็นไปได้ในการนำนวัตกรรมนี้มาปรับใช้รวมถึงอันตรายที่อาจตามมา เนื่องจากความสามารถในการวิเคราะห์หาข้อผิดพลาดของโค้ด (Debug Code) ไปจนถึงศักยภาพในการเขียนเรียงความสำหรับนักศึกษา
เพราะอะไร ChatGPT ถึงได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก?
ChatGPT เป็นปรากฎการณ์ Perfect Storm ที่เป็นการรวมกันของปัญญาประดิษฐ์ (AI) สองเรื่องใหญ่ ๆ ที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน นั่นคือแชทบอท และ GPT3 ที่นำเสนอวิธีการสื่อสารโต้ตอบพร้อมสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจ เสมือนการพูดคุยกับมนุษย์ได้อย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งเป็นผลมาจากการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องสำคัญในช่วงห้าปีที่ผ่านมา
แชทบอทสร้างปฏิสัมพันธ์การสนทนาแบบ 'ชาญฉลาด' ขณะที่...
Zero Trust จัดเป็นกลยุทธ์ลดความเสี่ยงที่สำคัญที่สุดขององค์กรส่วนใหญ่ แต่มีองค์กรไม่กี่แห่งเท่านั้นที่ดำเนินการ Zero-Trust ได้สำเร็จ การ์ทเนอร์ อิงค์ คาดการณ์ว่าภายในปี 2569 ประมาณ 10% ขององค์กรขนาดใหญ่จะมีโปรแกรม Zero-Trust ที่ใช้ได้อย่างสมบูรณ์และวัดผลได้ เพิ่มขึ้นจาก ณ ปัจจุบันที่มีไม่ถึง 1%
การ์ทเนอร์ให้คำจำกัดความของ Zero Trust ว่าเป็นกระบวนการด้านความปลอดภัยที่สามารถระบุผู้ใช้และอุปกรณ์ได้อย่างชัดเจน พร้อมยังให้สิทธิ์การเข้าถึงในขอบเขตที่เหมาะสม เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินการได้โดยลดแรงเสียดทานให้น้อยที่สุดและมีความเสี่ยงต่าง ๆ ลดลง
จอห์น วัตส์ รองประธานฝ่ายวิจัยของ การ์ทเนอร์ กล่าวว่า “หลายองค์กรติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานด้วยโมเดลความปลอดภัยที่คลุมเครือแทนที่จะเลือกใช้โมเดลที่มีความชัดเจน เพื่อให้การเข้าถึงและการดำเนินงานสำหรับพนักงานและตัวงานได้ง่าย ซึ่งแฮกเกอร์จะใช้จุดนี้เพื่อติดตั้งมัลแวร์ จากนั้นขยายวงการโจมตีให้กว้างขึ้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ Zero-Trust คือการเปลี่ยนแปลงแนวคิดสำหรับจัดการกับภัยคุกคามเหล่านี้ โดยอาศัยการประเมินอย่างต่อเนื่อง การคำนวณที่ชัดเจน และการกำหนดระดับความไว้วางใจที่ปรับเปลี่ยนได้ (Adaptive Trust) ระหว่างผู้ใช้ อุปกรณ์ และทรัพยากร”
ผู้บริหารด้านความปลอดภัยข้อมูล (หรือ CISO) และผู้นำด้านการบริหารความเสี่ยงจำเป็นอย่างยิ่งต้องเริ่มพัฒนากลยุทธ์ Zero-Trust ที่มีประสิทธิภาพ...
ภาคเอกชนผนึกกำลัง สนับสนุนการส่งเสริมการอนุรักษ์แหล่งกักเก็บคาร์บอนทะเล หรือ Blue Carbon ผ่านการดูแลอนุรักษ์ป่าชายเลนเพื่อเสริมระบบนิเวศและชุมชน ชี้ภาคธุรกิจและองค์กรเอกชนมีบทบาทสำคัญในการผลักดันประเทศไทยสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและ Net Zero
เมื่อเร็วๆ นี้ กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) ร่วมกับ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) และองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) จัดเสวนาร่วมกับองค์กรภาคีเครือข่าย ภายใต้ โครงการ Dow & Thailand Mangrove Alliance ในงาน Blue Carbon Conference 2022 “คาร์บอนทะเล: หนุนธุรกิจสู่ Net Zero เสริมระบบนิเวศและชุมชน” โดยนับเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีการรวมผู้เชี่ยวชาญทั้งด้านป่าชายเลน พื้นที่ราบน้ำขึ้นถึง และหญ้าทะเลบนเวทีเดียวกัน เพื่อแบ่งปันแนวทางการฟื้นฟูและอนุรักษ์แหล่งกักเก็บคาร์บอนทะเล (Blue Carbon) ที่กักเก็บได้มากกว่าระบบนิเวศป่าบกถึงเกือบ 10 เท่า จึงสามารถดูดซับคาร์บอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในงานดังกล่าว ได้เปิดเวทีให้อภิปรายถึงบทบาทของภาคเอกชนในการอนุรักษ์และฟื้นฟูพื้นที่บลูคาร์บอน...
จากสัดส่วนผู้บริโภคถึงสองในห้าที่มีแผนซื้อนาฬิกาผ่านช่องทางออนไลน์ ทำให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซของอุตสาหกรรมนาฬิกามีแนวโน้มเติบโตขึ้นเป็นสองเท่าภายในสิ้นทศวรรษนี้ ในขณะเดียวกัน นาฬิกามือสองยังเป็นที่ต้องการสูง โดยผู้บริโภคคิดเป็น 1 ใน 3 (ร้อยละ 31) มีแผนที่จะซื้อนาฬิกามือสองในอีก 12 เดือนข้างหน้า และสัดส่วนที่ว่าจะยิ่งสูงขึ้นในกลุ่มผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปี โดยเกือบครึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามในกลุ่มนี้ (ร้อยละ 48) มีแผนที่จะซื้อนาฬิกามือสอง ทำให้ตลาดนาฬิกามือสองมีแนวโน้มเติบโตจาก 20 พันล้านฟรังก์สวิสเป็น 35 พันล้านฟรังก์สวิสภายในปี 2573 คิดเป็นมากกว่าครึ่งหนึ่งของตลาดหลัก ผู้บริโภคยังมองว่านาฬิกาหรูเป็นสินค้าเพื่อการลงทุนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในจีนและฮ่องกง โดยมีผู้ซื้อนาฬิกาหนึ่งในสามที่ตัดสินใจซื้อเพื่อการลงทุนหรือเพื่อการขายต่อ จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และการที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีความเข้าใจในเทคโนโลยีดิจิทัลกลายมาเป็นกลุ่มผู้ซื้อหลักของนาฬิกาหรู อุตสาหกรรมนาฬิกาสวิสจึงต้องพิจารณาขยายช่องทางการจำหน่ายออนไลน์ โดยคำนึงถึงความนิยมเลือกซื้อนาฬิกามือสองที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้บริโภค และแนวโน้มของการซื้อนาฬิกาเพื่อการลงทุนที่กำลังเติบโต
ในแง่ของการเติบโต ผู้บริหารส่วนใหญ่เชื่อว่า ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดส่งออกของอุตสาหกรรมนาฬิกาสวิส ที่สำคัญที่สุดนั้น จะยังคงเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงต่อไป ตามมาด้วยประเทศอินเดีย และประเทศจีน ทั้งนี้ การคาดการณ์การเติบโตนั้นจะแตกต่างกันไปอย่างมากตามแต่ละภูมิภาค ตัวอย่างเช่น คาดว่ายอดจำหน่ายในฮ่องกงจะยังคงลดลงต่อไปหรือซบเซา ในขณะที่ผู้บริหารเพียงร้อยละ 57 เชื่อว่าตลาดจีน...