วิวัฒน์ อรรถประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทเอเซีย เปเปอร์ แบค จำกัด ผู้สร้างสรรค์ธุรกิจผลิตถุงกระดาษ โดยไปเห็นธุรกิจนี้เติบโตได้ดีในต่างประเทศ เขานำเข้าเครื่องจักรจากประเทศญี่ปุ่น ผลิตถุงกระดาษขายใบละ 19 สตางค์ เมื่อธุรกิจดำเนินจนอยู่ตัวจึงเริ่มหันมาส่งออก จากถุงใบละ 19 สตางค์ กลายเป็นสินค้าส่งออกใบละ 10 บาท รวมถึงรับจ้างผลิตให้เจ้าของสินค้ากับแบรนด์ดังๆ ในต่างประเทศ
คุณวิวัฒน์เล่าวว่า งานผลิตถุงเป็นงานดีไซน์ หยุดนิ่งไม่ได้ ต้องติดตามแนวโน้มที่ฉีกแนวไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้วัตถุดิบที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ การใช้โทนสีที่เปลี่ยนไปตามสมัยนิยม หรือการตอบสนองผู้บริโภคยุคใหม่ เช่น การผลิตถุงเก็บความเย็นกาแฟโบราณ รวมถึงการแข่งขันกับคู่แข่งไม่ว่าจะเป็นจีน ญี่ปุ่น เกาหลี อิตาลี หรือ อเมริกา เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะทำธุรกิจอะไร ต้องมีความชำนาญในเรื่องนั้นอย่างแท้จริงแล้ว ถ้าเรามีความเชี่ยวชาญ ต่อให้โลกจะพัฒนาก้าวหน้าไปเพียงใด ก็สามารถปรับตัวได้ในทุกสถานการณ์
“คุณเชื่อไหมว่าช่วงหนึ่งผมกำลังกำลังผลิตถุงกระดาษขายเพลินๆ อยู่ๆก็มีถุงก๊อบแก๊บเข้ามา เครื่องจักรที่สั่งเข้ามาใหม่ต้องว่างงานนานหลายเดือน ปรับกลยุทธ์กันจนหัวหมุม นี่คือความเป็นจริงของการทำธุรกิจ ไม่มีอะไรแน่นอน ถ้าคุณประมาทหรือมัวลุ่มหลงในความสำเร็จ ตลาดที่เคยเป็นของคุณจะตกไปอยู่ในมือคนอื่นอื่นทันที” คุณวิวัฒน์เล่าประสบการณ์
เขายังฝากข้อคิดถึงคนรุ่นใหม่ว่า...
ภายในงาน ‘วันของ SME : Together We Are One’ ณ ลานเซ็นทรัลคอร์ท ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ มีผู้ประกอบการ SME ได้รับเชิญจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ให้มาจัดบูธแสดงสินค้า และหนึ่งบูธที่ได้รับความสนใจอย่างมากคือ บูธปลากัด bettaberry หรือ bb เลยอดไม่ได้ที่จะแวะเวียนเข้าไปชมพร้อมพูดคุยกับ นภัทร-รมิดา ตาณธนพนธ์ เจ้าของกิจการดังกล่าว จึงได้ทราบว่ากิจการปลากัด bb ไม่มีหน้าร้าน เน้นการออกบูธและขายทางออนไลน์อย่างเดียว
คุณรมิดาเล่าให้ฟังว่า ตอนเริ่มต้นทำธุรกิจตั้งใจเลยว่าต้องขายผ่านระบบออนไลน์เท่านั้น เนื่องจาก ทำงานที่ไหนก็ได้ สามารถถ่ายภาพปลาและโพสต์ขายที่ไหนก็ได้ที่มีไวไฟ ส่วนยอดขายอยู่ที่ความขยัน ถ้าโพสต์บ่อยๆ มีปลาใหม่ๆหมุนเวียนมานำเสนอ ค่าเฉลี่ยการขายก็จะเพิ่มมากขึ้น จากการขายปลากัดอย่างเดียวขยายไปสู่โหลปลากัด อาหารปลากัด อุปกรณ์เลี้ยงปลากัด เพราะลูกค้าถามหา เลยคิดว่าควรจะขายอุปกรณ์เกี่ยวกับการเลี้ยงปลากัดด้วย เพื่อให้ลูกค้าเข้ามาแล้วจบที่เดียวเลย
เมื่อถามว่าการเลี้ยงปลากัดขายมีความเสี่ยงไหม เธอตอบว่าปลากัดที่เลี้ยง เน้นปลาเกรดเอหรือเกรดส่งออกเท่านั้น ทำให้ไม่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพของปลา ซึ่งการส่งไปต่างประเทศต้องใช้เวลาหลายวัน เช่นโซนยุโรปหรืออเมริกา...
กาแฟเป็นหนึ่งธุรกิจที่มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้าตลาด และคู่แข่งระดับบิ๊กๆที่พยายามแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดกันแบบใครดีใครได้ พัฒนาสูตรต่างๆออกมาจนจำกันไม่หมด ไม่เฉพาะกาแฟสำเร็จรูป แต่สมรภูมิในกลุ่มคอฟฟี่ช้อป-รถเข็นกาแฟ ก็เต็มไปหมด ตลาดกาแฟจึงเป็นสนามที่คนหน้าใหม่ไม่กล้าย่างกรายเข้ามา
แต่ใครจะคิดว่าวันดีคืนดีจะมีผู้ประกอบการ SME รายเล็กๆผุดขึ้นมาในตลาดอย่างเงียบๆ ใช้เวลาเพียงไม่ถึงปีสามารถสร้างสรรค์กาแฟพันธุ์ไทยแท้ออกไปสู้กับยักษ์ใหญ่ได้อย่างอหังการ์ ไม่เพียงขายในประเทศเท่านั้น แต่ยังสามารถส่งออกไปต่างประเทศได้อีกด้วย นับได้ว่าไม่ธรรมดาเลย กาแฟที่ว่านั้นก็คือ ‘DERIS COFFEE’ ที่ว่ากันว่าเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในเมืองไทยที่ผลิตกาแฟผสมน้ำตาลโตนดแท้ 100%
สาวิตรี ซิ้มสมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท PALMYRA SUGAR COFFEE เล่าให้ creativeecon.asia ฟังว่า เธอเคยมีประสบการณ์ด้านการทำกาแฟมากว่า 15 ปี วันหนึ่งมีโอกาสไปทำมาร์เก็ตเพลสที่ฮ่องกงและจีน จึงรู้ว่าคนจีนชอบผลไม้ไทยคือทุเรียนมาก เลยกลับมาพัฒนาต่อยอดนำทุเรียนมาผสมกับตัวกาแฟน้ำตลาดโตนดที่มีอยู่แล้ว
“เรามองตลาดว่ากาแฟทุเรียนที่มีอยู่ส่วนใหญ่จะใช้กลิ่นเป็นส่วนผสม ทั้งสิงคโปร์และมาเลเซีย จะใช้แค่กลิ่นผสมเข้าไปในกาแฟ แต่ของเราสร้างความแตกต่างโดยการใช้เนื้อทุเรียนใส่เข้าไปในกาแฟเลย ผสมกับความหวานจากน้ำตาลโตนด ซึ่งเป็นน้ำตาลที่ดีต่อสุขภาพ ทำให้สินค้าของเราแตกต่างจากตลาด กลายมาเป็นเดอรีส กาแฟน้ำตาลโตนดผสมเนื้อทุเรียนเจ้าแรกและเจ้าเดียวในเมืองไทย” สาวิตรี กล่าว
แม้กาแฟเดอรีสจะทำออกมาได้เพียงหนึ่งปี แต่ผลตอบรับถือว่าดีมาก โดยพาะตลาดส่งออกซึ่งส่งไปปักกิ่ง ประเทศจีน ผ่านตัวแทนนำเข้าที่ทำเว็บไซต์ให้กับเดอรีสและทางบริษัทได้จดเป็นเทรดมาร์กในประเทศจีนแล้วด้วย สำหรับในเมืองไทยมีจำหน่ายในเครือเดอะมอลล์ทุกสาขา...
ปัญหาของผู้ประกอบการประการหนึ่งคือ การขาดความรู้ในการเตรียมโครงการเพื่อขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินผู้ประกอบการบางรายมีโครงการที่ดี แต่กลัวปัญหาความยุ่งยากในการเตรียมโครงการ จึงหันไปหาแหล่งเงินทุนนอกระบบ โดยยอมเสียดอกเบี้ยในอัตราสูง
บางรายยอมเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากในการว่าจ้างที่ปรึกษา เพื่อเตรียมข้อมูลในการนำเสนอโครงการ
ทั้งที่ความจริง การยื่นโครงการเพื่อขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด
แต่ปัญหาสำคัญที่ผู้ประกอบการหลายรายไม่ผ่านการอนุมัติวงเงินสินเชื่อ เนื่องจาก
ขาดความพร้อมในการจัดทำโครงการ
ผู้ประกอบการบางรายมีธุรกิจหลายอย่าง ไม่สามารถให้ข้อมูลที่ชัดเจนแก่เจ้าหน้าที่สถาบันการเงินได้ว่าต้องการจะทำเรื่องใดแน่ ทำให้สถาบันการเงินมองว่าผู้ประกอบการขาดความพร้อม
ขาดความเป็นไปได้ในด้านต่างๆ เช่น
การตลาด ไม่สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มลูกค้า เป้าหมายทางธุรกิจ ตลอดจนข้อมูลในการจัดจำหน่าย และระบบการจัดจำหน่ายที่ดี
การผลิต ขาดแผนการผลิตที่ชัดเจน ทั้งเรื่องกระบวนการผลิต ประเภทเครื่องจักรที่ใช้ หรือ ต้นทุนการผลิต
การเงิน ไม่สามารถให้ข้อมูลที่ชัดเจนได้ว่า จะใช้เงินลงทุนมากน้อยเพียงใด ระยะเวลาการคืนทุนเป็นอย่างไร
การจัดการ ไม่มีความรู้ความสามารถในธุรกิจที่จะลงทุน หรือเป็นกิจการขนาดใหญ่ แต่อำนาจการตัดสินใจอยู่ที่บุคคลเพียงคนเดียว ทำให้ทางสถาบันการเงินมองว่ามีความเสี่ยงในการจัดการ
ขาดความเหมาะสมเรื่องเงินลงทุน
บางบริษัทต้องการใช้เงินสร้างโรงงานค่อนข้างสูง แต่วิเคราะห์ลึกพบว่า กิจการไม่จำเป็นต้องลงทุนในการก่อสร้างโรงงานมากเท่าที่ประมาณการไว้ เพราะเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรมากเกินความจำเป็น
ขาดหลักประกัน
ต้องการขอให้สถาบันการเงินสนับสนุนธุรกิจแต่ไม่มีหลักทรัพย์ใช้ค้ำประกันเลย เช่น ออฟฟิศอยู่ในพื้นที่เช่า เครื่องจักรอยู่ระหว่างการผ่อนชำระ ทำให้สถาบันการเงินไม่สมารถให้เงินสนับสนุนได้
นอกจากนี้ ปัญหาและอุปสรรคในการขอกู้เงินของผู้ประกอบการส่วนใหญ่เกิดจากความไม่พร้อมของตัวผู้ประกอบการในหลายๆด้าน ตัวอย่างเช่น เป็นผู้ประกอบการรายใหม่ ขาดประสบการณ์ ขาดความเข้าใจในการทำธุรกิจที่ดีพอ มีระดับภาระหนี้เกินตัว เป็นลูกหนี้เอ็นพีแอล ขาดการทำระบบบัญชีที่น่าเชื่อถือ ขาดหลักฐานสำคัญในการยื่นประกอบคำขอกู้ เช่น สัญญาเงินกู้ ใบส่งสินค้า สัญญาการซื้อขาย เป็นต้น
องค์ประกอบสำคัญที่สถาบันการเงินจะพิจารณาปล่อยสินเชื่อได้แก่ ความสามารถของตัวผู้ประกอบการ...
ปฏิวัติการนอน Dpilow ชูนวัตกรรมหมอนป้องกันแบคทีเรียได้ถาวร เป็นใบแรกของโลก ด้วยเทคโนโลยี “นาโน ซิงค์” ฝังแน่นอยู่ในเส้นใยผ้า ยับยั้งแบคทีเรียร้ายทุกชนิดได้อยู่หมัด ขจัดปัญหาสุขภาพ หลับสบาย คลายกังวล ทั้งยังช่วยให้ห่างไกลจากสารพัดโรคจากนอนหลับได้อย่างเบ็ดเสร็จ
นายมงคล คงสุขจิร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีพีลโล 999 (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯได้คิดค้นและพัฒนา หมอนป้องกันแบคทีเรียได้อย่างถาวร ขึ้นเป็นรายแรกของโลก ภายใต้ชื่อผลิตภัณฑ์ “Dpillow” โดยได้ยื่นเรื่องขอจดอนุสิทธิบัตรกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินงาน
ดี พิลโล่ เป็นหมอนนวัตกรรมที่ถูกวิจัยและพัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อการยับยั้งแบคทีเรีย ด้วยเทคโนโลยี “นาโนซิงค์” จาก Perma HealCA ได้รับการพิสูจน์และยอมรับจากนักวิทยาศาสตร์ว่ามีคุณสมบัติยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียชนิดร้าย สแตฟิโลคอกคัส (Staphylococcus) และ เคลบเซลลา นิวโมเนีย (Klebsiella Pneumoniae) ซึ่งเป็นสาเหตุของกลิ่นไม่พึงประสงค์ โรคผิวหนัง ไซนัส และภูมิแพ้ในชีวิตประจำวัน คุณสมบัติในการยับยั้งแบคทีเรียอย่างมีประสิทธิภาพนี้ ได้รับการรับรองจาก...
ปลาร้าเพชรดำ ของบริษัท เพชรดำฟู้ดส์ จำกัด จังหวัดกาฬสินธุ์ ถ่ายทอดสูตรจากรุ่นตายาย ส่งต่อให้รุ่นลูกเริ่มต้นกิจการทำแบบครัวเรือน ก่อนจะขยายตลาดเข้ามาในกรุงเทพฯด้วยวิธีขับรถแท็กซี่นำไปส่งให้พ่อค้าแม่ค้าตามตลาดต่างๆทดลองชิม เมื่อมีคนติดใจจึงเริ่มสั่งมาจำหน่ายในตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง ตลาดดาวคะนองและขยายไปเรื่อยๆ จนสินค้าได้รับความนิยมก็เริ่มจ้างแรงงานในพื้นที่ สร้างโรงงานระดับ 2 ในนาม ‘เพชรดำค้าปลาร้า’
ปี 2536 ปลาร้าเพชรดำมีสินค้ากระจายทั่วกรุงเทพมหานครและเกือบทุกจังหวัดในภาคอีสาน พัฒนาสู่การทำน้ำปลาร้าต้มสุกบรรจุขวดสูตรฝาสีขาว ผ่านการรับรองคุณภาพตามมาตรฐาน อย. พัฒนาเป็นสูตรสีเหลืองกลิ่มหอมตามธรรมชาติเรียกว่า ‘ปลาร้าโหน่ง’ ปี 2556 สร้างโรงงานระบบปิดผ่านการรับรองตามมาตรฐาน GMP และเพิ่มไลน์การผลิตเป็น ‘ปลาร้าผง’ และ ‘ปลาร้าก้อน’ ในปัจจุบัน
สำหรับเหตุผลการทำปลาร้าก้อนก็เนื่องมาจาก ปลาร้าเป็นอาหารยอดนิยมของคนไทยทุกภาค รวมถึงคนไทยในต่างแดน แต่การหาปลาร้าในต่างแดนรับประทานเป็นเรื่องยาก เพราะปัญหาด้านการขนส่ง จึงมีการวิจัยคิดค้นจนกระทั่งกลายเป็นปลาร้าก้อน ซึ่งนอกจากจะตอบโจทย์ให้คนต่างแดนได้มีปลาร้ารับประทานแล้ว ยังเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับปลาร้าอีกด้วย เพราะซื้อง่าย พกง่าย และปรุงง่ายนั่นเอง
เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการคัดเลือกเข้าสู่โครงการ ‘ปั้นดาว’ ของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว.
ใครจะไปคิดว่าสนามบินที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย (รองจากสนามบินสุวรรณภูมิ) แถมตั้งอยู่ในจังหวัดที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยว มีผู้คนนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวจำนวนมาก จนกล่าวได้ว่าการท่องเที่ยวอยู่ในเกณฑ์ดี จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นในช่วงฤดูการท่องเที่ยวของจังหวัด แต่กลับไร้ผู้โดยสาร
สนามบินที่ว่านี้ก็คือท่าอากาศยานเพชรบูรณ์ หรือ สนามบินเพชรบูรณ์ ตั้งอยู่ในตำบลลานบ่า อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ห่างจากตัวจังหวัดเพชรบูรณ์ประมาณ 31 กิโลเมตร มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 4,100 ไร่ ทำพิธีเปิดเมื่อ 8 เมษายน พ.ศ. 2543 เป็นท่าอากาศยานในสังกัดกรมท่าอากาศยาน กระทรวงคมนาคม
สนามบินเพชรบูรณ์ ประกอบด้วย อาคารที่พักผู้โดยสาร 2 ชั้น ขนาดพื้นที่ 11,640 ตารางเมตร ห้องพักผู้โดยสารขาเข้า-ออก อาคารหอบังคับการบินสูง 7 ชั้น อาคารเครื่องช่วยการเดินอากาศ อาคารที่ทำการดับเพลิง อาคารระบบไฟฟ้าสนามบิน อาคารรับส่งวิทยุ อาคารจอดรถยนต์และรถบัสโดยสาร อาคารบ้านพักเจ้าหน้าที่ สามารถรองรับผู้โดยสารชั่วโมงเร่งด่วนทั้งเข้า/ออกได้จำนวน 500 คน
ก่อนหน้านี้ การบินไทยเคยเปิดให้บริการสายการบินเพชรบูรณ์-ดอนเมือง และ เพชรบูรณ์-ลำปาง แต่ได้ยกเลิกเส้นทางการบินไป ทำให้สนามบินเพชรบูรณ์ไม่มีสายการบินพาณิชย์เปิดให้บริการ อย่างไรก็ตาม ปี...
ฟังเพลง ‘เชียงรายรำลึก’ คราใด หัวใจก็ลอยละล่องไปถึงเชียงรายครานั้น มองเห็นภาพดอยแม่สลองอันงดงาม ระบายด้วยซากุระสองข้างทาง ติดกับอำเภอแม่จันที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย อาทิ ไร่ชาฉุยฟงปลูกโค้งวนไปตามไหล่เขา น้ำพุร้อนป่าตึงที่พุ่งขึ้นไปสูงถึง 10 เมตร แค่คิดหัวใจก็ละลายอยากไปวันนี้..พรุ่งนี้
เที่ยวเสร็จมีที่พักชั้นดี ราคาถูก ‘รีสอร์ทวิวดอย’ ทาวน์โฮม 2 ชั้น ให้นอนเคล้าสายลมฉาบแสงจันทร์ สร้างเพียง 4 ยูนิต เพราะต้องการให้นักท่องเที่ยวมีความเป็นส่วนตัวและสะดวกสบายที่สุด ยูนิตละ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ชั้นล่างเป็นห้องโถงเอนกประสงค์ มีแอร์และเครื่องทำน้ำอุ่นพร้อม อัตราค่าเช่ายูนิตละ 1500 บาท สำหรับช่วงโลว์ซีซั่นลดเหลือ 1200 บาท เฉลี่ยแล้วห้องนอนละ 600-750 บาท แค่นั้นเอง ที่ตั้งหาไม่ยาก อยู่ฝั่งตรงข้ามที่ทำการ อบต.ศรีค้ำ อำเภอแม่จัน ริมทางหลวงไปไร่ชาฉุยฟง ห่างถนนพหลโยธินสายหลักเพียง 350 เมตร มีศูนย์อาหารอยู่ติดกับรีสอร์ต
หนาวนี้..เที่ยวแม่จัน...
จังหวัดอุตรดิตถ์ตั้งอยู่ทางภาคเหนือตอนล่าง เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่สมัยก่อนยุคประวัติศาสตร์ โดยสันนิษฐานว่ามีผู้คนอยู่อาศัยตั้งถิ่นฐานในบริเวณนี้มาตั้งแต่ก่อน พ.ศ. 1000 เนื่องจากมีการค้นพบกลองมโหระทึกทำด้วยทองสัมฤทธิ์ที่ตำบลท่าเสา อำเภอเมืองฯ ซึ่งเป็นโลหะชนิดที่มีใช้กันอยู่ในยุคสัมฤทธิ์หรือยุคโลหะตอนต้น อันเป็นยุคก่อนประวัติศาสตร์นั่นเอง
อุตรดิตถ์ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งพระแท่นศิลาอาสน์ ตำนานอันลึกลับของเมืองลับแล ดินแดนแห่งลางสาดหวานหอม ถิ่นสักใหญ่ของโลก และเป็นบ้านเกิดของพระยาพิชัยดาบหัก ขุนศึกคู่บารมีของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ก่อนสมัยรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ตัวเมืองอุตรดิตถ์ในปัจจุบันนี้เป็นเพียงตำบลชื่อ "บางโพธิ์ท่าอิฐ" ที่ขึ้นอยู่กับเมืองพิชัย แต่เนื่องจากในสมัยนั้น เมื่อพ่อค้าจะนำสินค้าจากเมืองหลวงพระบาง น่าน หรือเมืองทางเหนืออื่นๆ ไปขายทางใต้ เช่น พิษณุโลก นครสวรรค์ อยุธยา กรุงเทพฯ หรือจะนำสินค้าจากทางใต้ขึ้นเหนือ ก็ต้องแวะพักกันตามท่าน้ำจอดเรือของบางโพธิ์ท่าอิฐ ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนสินค้าและวัฒนธรรม ตลอดจนการโยกย้ายถิ่นที่อยู่อาศัยของกลุ่มชนต่างๆ ตามแนวลำน้ำขึ้น บางโพธิ์ท่าอิฐซึ่งอยู่ริมฝั่งขวาของแม่น้ำน่านมีความเจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อถึงในสมัยของรัชกาลที่ 5 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ยกฐานะตำบลบางโพธิ์ท่าอิฐขึ้นเป็นเมือง "อุตรดิตถ์" ซึ่งมีความหมายว่า “ท่าน้ำแห่งทิศเหนือ”แต่ยังคงขึ้นกับเมืองพิชัยอยู่ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 6 เมืองอุตรดิตถ์มีความเจริญขึ้นมากกว่าเมืองพิชัย จึงได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นจังหวัด และเมืองพิชัยเลื่อนลงไปเป็นอำเภอหนึ่ง ขึ้นกับจังหวัดอุตรดิตถ์จนถึงทุกวันนี้
เป็นดินแดนที่น่าเดินทางไปท่องเที่ยวอย่างยิ่ง!!!
ทุกวันนี้มีสีทาบ้านให้เลือกมากมาย เราจะรู้อย่างไรว่าสีทาบ้านชนิดไหนเหมาะกับบ้านของเรา และสีที่ซื้อมานั้นเป็นของจริงหรือของปลอม
ในการช้าสีทาบ้าน ควรเลือกให้เหมาะกับบ้าน ถ้าเป็นบ้านปูนจะใช้สีน้ำพลาสติก ถ้าเป็นบ้านไม้ใช้สีน้ำมัน ในการทาสีบ้านโดยเฉพาะบ้านปูนต้องรอให้ปูนที่ฉาบไว้แห้งสนิทเสียก่อนจึงค่อยทาสี หากทาในช่วงที่ปูนยังไม่แห้งสนิทจะทำให้สีบวมและหลุดล่อนได้ง่าย และควรใช้สียี่ห้อเดียวกันทั้งหมด เพื่อสะดวกในการดูแล เช่น หากในอนาคตสีบ้านซีดจาง ถ้ารู้ว่าสีเดิมยี่ห้อและเบอร์อะไร ก็ง่ายต่อการซ่อมแซม
อย่างไรก็ตาม สีบางชนิดทาไปไม่เท่าไหร่ก็ผุกร่อน ซีดจาง ก่อนเวลาอันควร เนื่องจากไม่ได้มาตรฐาน หรือเป็นสีปลอมนั่นเอง โดยการนำเนื้อสีปลอมไปผสมในกระป๋องสียี่ห้อดังๆแล้วนำไปจำหน่าย วิธีการพิสูจน์สีปลอมไม่ยาก เพียงแค่นำสีที่ซื้อมาทาผนังปูนหรือไม้ทิ้งไว้ให้แห้ง จากนั้นเอานิ้วไปป้าย ถ้ามีฝุ่งชอล์คติดนิ้วมาแสดงว่าคุณภาพของสีไม่ดี หรืออาจเป็นสีปลอมนั่นเอง






































